สะกดรอยลอมจับแก๊งค้าปืนเถื่อน ยึดของกลางปืนสงครามพร้อมเครื่องกระสุนเพียบ

สะกดรอยลอมจับแก๊งค้าปืนเถื่อน ยึดของกลางปืนสงครามพร้อมเครื่องกระสุนเพียบ

View icon 382
วันที่ 25 ม.ค. 2568 | 10.22 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.ธีระเดช อธิภัคกุล รรท.ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร และ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาล กก.สส.2 บก.สส.บช.น  ร่วมกันจับกุม นายภัทรกร อายุ 28 ปี ในข้อหา มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย สามารถจับกุมได้ที่ ซอยสันติปรีชา ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร

นอกจากนี้ตรวจยึดของกลาง อาวุธปืน(M 79) จำนวน 1 กระบอก , อาวุธปืนอากา จำนวน 6 กระบอก , แมกกาซีน จำนวน 17 อัน ,เครื่องกระสุนปืนขนาด 7.62 มม. จำนวนประมาณ 8,000 นัด , เครื่องกระสุนปืนขนาด M 60 จำนวน ประมาณ 500 นัด

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้กำชับสั่งการให้ระดมกวาดล้างผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้างรวมทั้งกวาดล้างผู้ที่ลักลอบค้าอาวุธปืน อาวุธสงคราม และเครื่องกระสุนปืน ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล นำโดย พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. สั่งการให้สืบสวนหาข่าวกลุ่มผู้ค้าลักลอบขายปืนเถื่อนรายใหญ่เพื่อป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิดในพื้นที่

ต่อมา เจ้าหน้าที่ กก.สส.2 บก.สส.บช.น ได้เฝ้าติดตามแก๊งค้าอาวุธสงครามมาเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางตำรวจสืบนครบาลได้มีการเข้าตรวจค้นที่บ้านพักของผู้ต้องหาคนดังกล่าวแต่ไม่พบของกลาง ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบเคยถูกแจ้งข้อหาการครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมาย ในพื้นที่ สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จึงได้ติดตามสืบสวนแก๊งค้าอาวุปืนกลุ่มนี้

กระทั่งทราบว่าในวันที่ 24 ม.ค. 68 ช่วงเวลากลางคืนจะมีการลักลอบขนอาวุธปืนสงคราม เพื่อนำมาจำหน่ายจึงได้มีการติดตามสะกดรอยตามแก๊งดังกล่าวพบรถต้องสงสัย 2 คัน จอดอยู่บริเวณดังกล่าว ชุดสืบสวนจึงเข้าตรวจค้นภายในรถพบอาวุธปืน อาวุธสงครามเป็นจำนวนมาก มีการทำสีพ่นใหม่และอยู่ในสภาพใช้การได้

จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รับอาวุธปืนทั้งหมดมาจากบริเวณอรัญประเทศก่อนจะนำเข้ามายังจุดพักในกระทุ่มแบนซึ่งเป็นสถานที่ที่เตรียมไว้ และจะนำส่งขายต่อไปยังปลายทาง โดยก่อนหน้านี้เคยลักลอบขนสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามาแล้วประมาณ 2-3 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 20,000 บาท สำหรับช่องทางการขายนั้นเป็นการติดต่อโดยตรงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ราคาขายอยู่ที่ราคา 40,000 - 60,000 บาท อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทางตำรวจการขยายผลสืบสวนเพื่อหาตัวการผู้อยู่เบื้องหลังต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง