ลูกสาวแค้นพ่อ หลังพ่อมีหญิงอื่น และยังใส่ร้ายแม่ว่าคบชู้กับตำรวจ ทำร้ายร่างกายลูก มิหนำซ้ำ ไม่ดูแลครอบครัว แต่เอาเงินเก็บเปย์หญิงอื่น จนแม่ลูกต้องเข้าแจ้งความ
วันที่ 26 ม.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความพร้อมคลิปวิดีโอประจานพฤติกรรมความรุนแรงของพ่อบังเกิดเกล้า ในกลุ่มข่าวโคราช โดยเป็นคลิปการสนทนาทางโทรศัพท์ ด้วยถ้อยคำรุนแรง และคลิปจากกล้องวงจรปิดที่ถูกทำร้ายร่างกาย
น.ส.เบล อายุ 25 ปี เผยว่า ตนเองเป็นผู้โพสต์ข้อความและคลิปวีดีโอดังกล่าว เนื่องจากคับแค้นใจที่ผู้เป็นพ่อไม่ดูแลครอบครัว เมื่อเวลา 19.44 น.ของวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา พ่อของตนได้โทรศัพท์พูดคุยแล้วใช้ถ้อยคำรุนแรงต่อว่ากัน เนื่องจากตนสุดทนกับพฤติกรรมหลายอย่างของผู้เป็นพ่อ จับได้ว่าพ่อไปมีเมียน้อย และนำเงินเก็บไปสร้างบ้านให้เมียน้อย ทั้งใส่ร้ายแม่ว่าไปคบชู้กับตำรวจ จนตนเองต้องพาแม่ไปแจ้งความ ปกติแล้วตนจะไม่เคยใช้ถ้อยคำหยาบคายและรุนแรงกับพ่อ แต่ครั้งนี้ตนเองฟิวส์ขาด จึงเป็นถ้อยคำเหมือนกับในคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ไป ที่ผ่านมาพ่อและแม่ยึดอาชีพขายผลไม้ในตลาดขายส่ง สร้างครอบครัวกันมามีลูกสาวทั้งหมด 3 คนตนเองเป็นคนสุดท้อง ก่อนหน้านี้จับได้ว่าพ่อมีเมียน้อย และนำเงินทองไปให้เมียน้อยสร้างบ้าน แต่พ่อไม่ยอมรับ และเป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรง ไม่ฟังความคิดเห็นของลูก จนมีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง
ก่อนหน้านี้ เมื่อ 3 ปี ก่อนเคยทำร้ายพี่สาวของตนจนได้รับบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาล สาเหตุจากพี่สาวของตนเองยึดโทรศัพท์ของหลาน เนื่องจากจะควบคุมพฤติกรรมไม่อยากให้หลานเล่นโทรศัพท์มากจนเกินไป แต่พ่อไม่พอใจจึงได้ด่าทอกันลงไม้ลงมือ จนพี่สาวตนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นลูกทั้ง 3 จึงได้ย้ายหนีไปใช้ชีวิตอยู่ที่จังหวัดสงขลา ด้วยความสงสารแม่จึงได้กลับมา เพื่อจะช่วยขายของ และทราบว่าแม่จะให้สร้อยทอง 1 บาท กับตน เองแต่ทองเส้นดังกล่าวอยู่กับพ่อ เมื่อสอบถาม พ่อกลับบอกว่าทำทองหาย แต่มาทราบภายหลังว่าได้นำเงินไปใช้จ่ายกับเมียน้อย จึงทำให้เป็นสาเหตุที่ได้ทะเลาะกัน
ตนเองจึงได้อัดคลิปแล้วโพสต์ประจานพฤติกรรม เนื่องจากคนเกรงว่า ถ้าหากได้เจอกับพ่อตนต้องถูกทำร้ายร่างกาย และต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้เป็นแม่ เนื่องจากค่าใช้จ่ายทั้งหมดในบ้าน แม่ของตนเป็นคนรับผิดชอบ แม้แต่ค่าจ้างที่ช่วยกันคนผลไม้ก็ยังต้องจ้างพ่อในราคาเต็มไม่เต็มหน่วย
ขณะท่ ผู้เป็นแม่ เผยว่า ตนเองเป็นชาวสงขลา ส่วนสามีเป็นชาวอ่างทอง มีอาชีพขายผลไม้ในจังหวัดต่างๆมาหลายปี เพิ่งมาก่อร่างสร้างตัวได้ที่ตลาดในจังหวัดนครราชสีมา ขยันทำมาค้าขายจนสามารถเก็บเงินเก็บทองเลี้ยงชีพได้ ยืนยันว่า แม้จะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายเช่นนี้ แต่ยังรักสามีไม่เคยเปลี่ยน และไม่เคยนอกใจอย่างที่สามีกล่าวหา ส่วนข้อมูลที่ตนได้รับว่าสามีนอกใจได้รับฟังจากพยานหลายสิบปากว่า นำเงินไปซื้อที่ดินเป็นชื่อของผู้หญิงอื่น เพื่อสร้างบ้าน มีการปิดบัง รวมทั้งนำผู้หญิงอื่นไปอวดตามงาน จนชาวบ้านพบเห็นและมาเล่าให้ฟัง ตอนนี้รู้สึกเสียใจมากและต้องการจะฟ้องหย่า และให้ชดใช้ค่าเสียหายให้กับตน อยากให้คืนสมบัติเงินทองที่สะสมมา โดยในช่วงเมษายนปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน หมดเงินไปกับสามีไปร่วม 200,000 บาท ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา สามีบอกว่าไปลงทุนปลูกมันระบบน้ำหยดจะได้กำไรเป็นแสน แต่กับขาดทุนให้เงินคืนกลับมาให้ตนเพียง 20,000 บาท ตนเองได้นำเงินนั้น ไปซื้อทองคำ 1 บาท เพื่อจะให้มอบลูก จะได้มอบให้สามีเก็บไว้ แต่สามีกลับพาเมียน้อยไปปีใหม่กลับมาบอกทองหาย
ทั้งนี้ตนและสามีได้ทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย และฝ่ายหญิงอีกฝ่ายก็มีสามีเช่นกัน ฝากถึงสามีว่าทำผิดก็ขอให้ยอมรับผิด จากนี้จะให้อภัยในทุกเรื่อง แต่ขอเรื่องเดียวคือขอดำเนินเรื่องหย่าขาดจากกันและจะปล่อยให้เขาไปตามทาง