วุ่นทั้งจังหวัด!สาวกุเรื่องโดนอุ้มซ้อมจนแท้ง ที่แท้แค่น้อยใจผัว ไม่เคยตั้งครรภ์ เลือดที่เห็นเป็นเลือดหมู ซ้ำไม่ได้เป็นพยาบาล แค่ชื่นชอบและฝันอยากเรียนพยาบาล
จากกรณี เหตุอุกอาจ สาวทำงานโรงพยาบาล ถูก 2 ชายฉกรรจ์ 1 หญิง ขับเก๋งปาดหน้าขณะไปทำงาน ก่อนอุ้มขึ้นรถ มัดมือ-ปิดตา ซ้อมจนแท้ง ก่อนขับมาทิ้งปากซอยห้องพัก เหตุเกิดที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นั้น
(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สาวพยาบาล ถูก 2 ชายฉกรรจ์ 1 หญิง ขับปาดหน้าอุ้มขึ้นรถ ซ้อมจนแท้ง)
ล่าสุด หลังเป็นกระแสข่าวซึ่งเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ พล.ต.ต นฤนาท พุธไธสง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้สั่งการให้ พ.ต อ อดิเรก โปธิปัน ผกก.สภ.บางปะอิน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ออกหาข่าว พร้อมนำตัว น.ส.กชภัสรรสณ์ ผู้บาดเจ็บส่งตรวจร่างกาย รพ.ราชธานี เมื่อตรวจเสร็จแพทย์วินิจฉัยพบว่า ผู้บาดเจ็บไม่ได้มีการตั้งครรภ์และไม่ได้มีการถูกทำร้ายร่างกายจนแท้งลูก
โดย น.ส.กชภัสรรสณ์ ยอมรับว่า เรื่องทั้งหมดตนเองเป็นคนกุเรื่องขึ้นมา รวมทั้งแช็ต ที่พูดคุยกับสามี ส่วนเลือดที่เปรอะเปื้อนตัวเองนั้น เป็นเลือดหมูโดยไปซื้อมาจากตลาด ส่วนชุดพยาบาลที่ตนเองสวมใส่นั้น เป็นชุดที่ไปซื้อมาใส่เอง เพราะมีความตั้งใจและชื่นชอบอยากเรียนเป็นพยาบาล จึงซื้อมาใส่เพื่อกุเรื่องโกหกสามี
ส่วนเหตุผลที่ทำลงไปเกิดจากความน้อยใจในตัวสามี เพราะคิดว่าสามีจะนอกใจและไปมีคนอื่น พร้อมขอโทษทุก ๆ คนที่ทำให้เรื่องทั้งหมดวุ่นวาย
ด้านนายณฤเบศ อายุ 52 ปี สามี เผยว่า ตนเองไม่รู้เรื่องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกกับตนเองว่า ภรรยากุเรื่องขึ้นมาทั้งหมด ตนเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อ จึงอยากจะถามภรรยา กุเรื่องขึ้นมาทำไม ซึ่งตนเองตกใจมากหลังรู้ข่าวว่าภรรยาถูกทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส เมื่อตนเองมาถึงเห็นภรรยานอนสลบอยู่ที่พื้น ตนเองตกใจพยายามช่วยปั๊มหัวใจ โทรเรียกเจ้าหน้ากู้ภัย เนื่องจากเป็นห่วงภรรยา จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าภรรยากุเรื่องโกหกทั้งหมด
ตนยอมรับว่า สมัยก่อนตนเองเป็นคนเจ้าชู้ แต่เมื่อมาเจอภรรยา และภรรยาบอกว่าท้อง ตนเองก็พาไปจดทะเบียนสมรส และพร้อมจะหยุดที่ภรรยาคนนี้ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าภรรยาทำไมถึงคิดแบบนี้ แล้วก็มากุเรื่องหลอกตนเองจนทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น
ส่วนเรื่องที่ภรรยาบอกว่าเป็นพยาบาล ตนก็เพิ่งจะทราบความจริงวันนี้ว่า ภรรยาก็โกหกเรื่องขึ้นมาหลอกตนเองทั้งหมด ทั้งเรื่องที่ว่าเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลศิริราชและเป็นเจ้าหน้าที่อยู่โรงพยาบาลราชธานี 2 ซึ่งตนเองก็เคยไปส่งภรรยาที่หน้าโรงพยาบาล จากนั้นภรรยาก็ขึ้นไปบนตึกซึ่งตนเองไม่รู้เลยว่า อยู่กับภรรยามา 1 ปี มาทราบเรื่องก็วันนี้ว่า ภรรยาไม่ได้เป็นพยาบาลจริง เพราะว่าภรรยาก็ให้พาไปซื้อชุดพยาบาลปกติ และก็ออกจากบ้านไปทำงาน จนกระทั่งมาทราบเรื่องวันนี้
แต่อย่างไรก็ตาม ตนเองก็พร้อมที่จะให้อภัยกลับมาเป็น สามีภรรยากัน หากภรรยากลับตัวและจะไม่สร้างเรื่องโกหกแบบนี้อีก