จุฬาฯ รวมสุดยอดผู้นำเปิดวิสัยทัศน์ ฉายแววอนาคตเพื่อประเทศไทย

จุฬาฯ รวมสุดยอดผู้นำเปิดวิสัยทัศน์ ฉายแววอนาคตเพื่อประเทศไทย

View icon 253
วันที่ 3 ก.พ. 2568 | 19.27 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
จุฬาฯ รวมสุดยอดผู้นำองค์กรชั้นนำระดับประเทศ เปิดวิสัยทัศน์กว้างไกล ฉายแววอนาคตเพื่อประเทศไทย ในงานสัมมนา Chula Thailand President Summit 2025

(3 ก.พ.68) ในงานสัมมนา Chula Thailand President Summit 2025 สุดยอดผู้นำเปิดวิสัยทัศน์ขับเคลื่อนประเทศ เป็นเวทีที่รวมนิสิตเก่าของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ในฐานะผู้นำองค์กรชั้นนำของประเทศทั้งภาครัฐ และเอกชน ซึ่งประสบความสำเร็จในการบริหารงานทั้งระดับประเทศและนานาชาติ มาร่วมเปิดมุมมองสะท้อนแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของไทย

67a0b794c729d1.50422979.png

67a0b66ccb0261.54304688.png

ศ.(พิเศษ) ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยว่า ที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทย ยังถือว่าเติบโตช้า เพราะกว่าจะผ่านพ้นโควิด-19 มาได้ ใช้เวลานานกว่าประเทศอื่นถึง 4 ปี ประกอบกับสัญญาณเศรษฐกิจทั่วโลกในวันนี้ อาจทำให้ไทยต้องเร่งปรับตัวโตให้เร็ว

มุมมองต่ออนาคตของไทยในระยะข้างหน้า อาจได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย  โดยเฉพาะนโยบายการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ  แม้การส่งออกไทยอาจได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้  แต่อีกมุม สหรัฐฯเอง ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน  เพราะเป็นประเทศที่ไม่สามารถผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคเองได้ ส่วนใหญ่นำเข้า ทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ก็คงปรับขึ้น กระทบคนระดับกลางของสหรัฐฯ ที่ส่วนใหญ่ พบว่า เป็นฐานเสียงของทรัมป์เองด้วย ที่สุดแล้ว ไทยควรวางจุดยืนทางการเมือง และภูมิรัฐศาสตร์ให้ชัดเจน เพื่อรับมือนโยบายผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งทุกภาคส่วนควรจับมือกัน และ เสนอให้เร่งจัดตั้งทีมคณะทำงาน เป็นตัวแทนไปเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อให้ไทยผ่านพ้นความเสี่ยงนี้ 

67a0b66d1bc588.70734582.png

ด้าน ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาฯ กล่าวถึงที่มาของการจัดงานครั้งนี้  ต้องการสร้างอนาคตด้านการศึกษาไทย หลังวันนี้มีปัจจัยหลายอย่างทำให้การศึกษาเปลี่ยนแปลงไปจากอดีต โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีและการพัฒนาเอไอ  หลายปัจจัยยังทำให้เศรษฐกิจผันผวน  โดยฉายภาพเรื่องแรงงานไทย ที่อนาคตตำแหน่งงานอาจหายไปถึง 92 ล้านตำแหน่ง ถ้าภาคการศึกษาไม่ปรับตัวให้เร็ว ซึ่งจุฬาฯ กำลังสร้างทักษะใหม่ ๆ สู่นิสิต เพื่อสร้างคนพันธุ์ใหม่ ให้มีทักษาแห่งอนาคตรอบด้าน เช่น ความคิดสร้างสรรค์, มีภาวะผู้นำ, ทักษะด้านเครือข่ายความปลอดภัย, การคิดวิเคราะห์, ทักษะ AI และ Big Data

นอกจากนี้ มองการศึกษาไม่ได้ให้แค่ความรู้ และสร้างอาชีพ แต่คือ การสร้างคน บทบาทต่อไปของมหาวิทยาลัยคือ ศูนย์รวมแห่งความรู้  มิติการศึกษาจะต้องเปลี่ยนแปลงไป มุ่งให้นิสิต สู่ Global Citizen  พร้อมระบุว่า สิ่งที่จะชนะปัญญาประดิษฐ์ได้ ก็คือ ความรู้ธรรมชาติ ที่ควรเรียนรู้อย่างยั่งยืน

67a0b66e17a077.61997571.png


67a0b66d66dbc7.18403078.png

ธนินทร์ เจียรวนนท์  ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์  ให้มุมมองอนาคตไทยในด้านเศรษฐกิจ ซึ่งประเมิน เศรษฐกิจไทย ยังมีอนาคตสดใส แม้ช่วงนี้ไทยจะอยู่ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลก, การเมืองปั่นป่วน, เทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตให้รวดเร็ว หลายเรื่องอาจมีดี และมีวิกฤตบ้าง แต่ ไทยถือว่ามีแต้มต่อสำคัญ ทั้ง ความพร้อมด้านการท่องเที่ยวที่เติบโตแข็งแกร่ง ล่าสุดการฟรีวีซ่า ถือว่ามาถูกทาง แต่ยังขาดเรื่องของงบประมาณสนับสนุนการท่องเที่ยว และวางเป้าหมายไม่ชัดเจน รวมถึงจะจับตลาดกลุ่มไหนก็ให้ชัดเจน

นอกจากนี้ การมีภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศที่เกิดภัยพิบัติ  แค่ภัยแล้งและน้ำท่วม น่าจะแก้ปัญหาได้ง่ายกว่าประเทศอื่น ๆ  ซึ่งมีข้อเสนอให้รัฐบาล ควรนำงบประมาณจัดการเรื่องชลประทาน กักเก็บน้ำอย่างจริงจัง สนับสนุนการทำถนนทางเข้าพื้นที่การเกษตรกรรมให้ทั่วถึง เพื่อเพิ่มความสะดวก และนำไปสู่การเข้าถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ เชื่อว่า ถ้าทำได้ ผลผลิตการเกษตรไทย อาจเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า รวมถึง จากนี้ ต้องเร่งสร้างนิสิต ที่มีความรู้ความสามารถ หลังพบปัญหาแรงงานมีทักษะน้อยลงทุกปี หากไม่ทำอะไรเลย โลกเปลี่ยนอาจสร้างแรงงานไม่ทัน ซึ่งทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการออกกฏหมายขับเคลื่อน

ขณะที่ด้านธุรกิจของซีพี ทุกวันนี้ คิดจะทำอย่างไร ให้ต้นทุนถูกลง เครื่องจักรที่จะลงทุนต่อ จะต้องมีพลังมากกว่า 5 เท่า รวมถึงการพัฒนา AI และพัฒนาคนให้ฉลาดขึ้น   เชื่อว่า ถึงจุดนั้น หากทำได้ทั้งหมด ค่าแรงขั้นต่ำก็มีโอกาสแตะ 600 บาทได้แน่นอน ทั้งหมดต้องพึ่งพาสถาบันการศึกษาเป็นหลัก  นักธุรกิจ และรัฐบาลก็ต้องทำหน้าที่ให้ประเทศชาติมั่นคง

67a0b69875e7a0.18802447.png

ข่าวที่เกี่ยวข้อง