เช้านี้ที่หมอชิต - ผ่านไปแล้วสำหรับสนามเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัด และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั่วประเทศ กกต.พลาดเป้ามีผู้มาใช้สิทธิเพียง 58 % น้อยมากเมื่อเทียบกับปี 2563
พรรคการเมืองใหญ่อย่างพรรคเพื่อไทย สามารถชิงเก้าอี้ไปได้ 10 ที่นั่ง พรรคภูมิใจไทย 9 ที่นั่ง และพรรคประชาชน 1 ที่นั่ง ส่วนที่เหลือเป็นผู้สมัครอิสระ
อาจเรียกได้ว่าล้มเหลว และไม่เข้าเป้า สำหรับพรรคประชาชนที่ส่งผู้สมัครไป 17 จังหวัด แต่ปักธงส้มได้แค่ลำพูน หัวหน้าพรรค ก็ขึ้นรถแห่ขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้นายกฯ เฮงเป็นว่าที่นายก อบจ.ลำพูน
หลังนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ 99.99 % พรรคประชาชน ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ถือว่าครองใจประชาชนได้ในบางส่วน ในหลายจังหวัดคะแนนสูสีแชมป์เก่าเจ้าของพื้นที่ อย่างเชียงใหม่ เรียกได้ว่าหายใจรดต้นคอ สุดท้าย "สว.ก๊อง" จากเพื่อไทยก็เบียดชนะไป
นักวิชาการ อาจารย์สติธรจากสถาบันพระปกเกล้า ชี้ว่า สนามการเลือกตั้งท้องถิ่น เป็นสนามประลองของทั้ง 3 สี พรรคประชาชนที่พูดเสมอว่าเป็นหัวคะแนนธรรมชาติ แต่ได้เก้าอี้เพียงแค่ 1 จังหวัด
ส่วนเพื่อไทยที่พ่อใหญ่ทักษิณกลับมาจับไมค์เป็นผู้ช่วยหาเสียงก็พลาดเป้า ยอมรับเสียดายที่เชียงราย และลำพูน แม้นายกฯ อิ๊งค์บอกว่าพอใจแล้ว และพ่อใหญ่ก็แฮปปี แต่ก็เล็งถอดบทเรียนปูพรมสู่การเลือกตั้งใหญ่
ว่าที่ นายกฯ อบจ. ส่วนใหญ่เป็นคนในบ้านพรรคสีน้ำเงิน ที่ไม่ส่งผู้สมัครในนามพรรค แต่เครือข่ายบ้านใหญ่กวาดเก้าอี้ได้เพียบ โดยเฉพาะภาคใต้กินเรียบเกือบหมด ทั้งภูเก็ต กระบี่ สตูล และพัทลุง เป็นสัญญาณว่าการเลือกตั้งปี 2570 คู่แข่งอาจไม่ใช่สีแดงกับสีส้ม แต่อาจเป็นสีแดงกับสีน้ำเงิน
การเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้ มีบัตรดีประมาณ 37 ล้านใบ บัตรเสียประมาณ 2.4 ล้านใบ และบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดสูงถึง 2.9 ล้านใบ