ผู้เสียหายแจ้งความแก๊งโอริโอ้ โพสต์ข้อมูลทะเบียนราษฎร์ลงสื่อโซเชียล สงสัย มีเจ้าหน้าที่รัฐฯ อยู่เบื้องหลังหรือไม่
วันนี้ ( 4 ก.พ.68) เด็กชายอายุ 14 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า สมาชิกของแก๊งโอริโอ้มายืมเงินรุ่นพี่ของตน 5,000 บาท เมื่อประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ก่อนจะมีทักทวงถามขอคืนเงินแต่ไม่ได้เงินคืน ถัดมาอีกประมาณ 1-2 เดือน เพื่อนของตนก็ไปเห็นในเฟซบุ๊กของนายเมล หรือแม้ว หนึ่งในสมาชิกแก๊งโอริโอ้ มีการโพสต์ข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของตนเอง ลงในสตอรี่ พร้อมกับข้อความข่มขู่ "ถ้าหากยังไม่หยุด จะเป็นรายต่อไป" ซึ่งทำเองก็รู้สึกแปลกใจเพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้รู้จักกับแก๊งนี้เป็นการส่วนตัว ตนจึงให้เพื่อนทักไปสอบถาม แต่ก็ไม่มีใครตอบข้อความดังกล่าว จึงทำให้ตนมีความกังวลในการใช้ชีวิต กลัวที่จะถูกทำมาตลอดเวลา และสงสัยว่าข้อมูลส่วนบุคคลหลุดไปได้อย่างไร ซึ่งคาดว่าน่าจะมีเจ้าหน้าที่รัฐหรือบุคคลอื่นให้ความช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง
ก่อนหน้านี้ ตนไม่กล้าเข้าไปแจ้งความ และไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับใคร เพราะกลัวจะถูกทำร้าย แต่พอเห็นว่าเป็นกระแสเริ่มมีผู้เสียหายคนอื่นทยอยเข้าแจ้งความ จึงตัดสินใจปรึกษาครอบครัวและมาแจ้งความที่ สน.ร่มเกล้า ในวันนี้
ด้าน นางสาว อังศวีร์ อนุวัตน์รุจิกร หรือ ทนายโรส เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า ข้อมูลในทะเบียนราษฎร์ ถูกต้องแค่ชื่อและนามสกุลของผู้เสียหายเท่านั้น ส่วนที่อยู่ เลขบัตรประชาชน รวมทั้งชื่อบิดามารดา ไม่ตรงกับข้อมูลจริงของผู้เสียหาย ซึ่งเรื่องนี้จะต้องให้ตำรวจมีการตรวจสอบว่าเป็นการปลอมแปลงเอกสารหรือไม่ โดยในวันพรุ่งนี้จะพาผู้เสียหายไปคือหลักฐานที่สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง และจะเปิดหลักฐานชิ้นสำคัญ ซึ่งเป็นแช็ตการสนทนาซื้อขายข้อมูลทะเบียนราษฎร์
ทางด้าน พ.ต.อ.สมโภช ทองมูล ผกก.สน.ร่มเกล้า ระบุว่า เบื้องต้นเชื่อว่าเอกสารดังกล่าวเป็นการตัดต่อ เพราะตัวหนังสือไม่เหมือนเอกสารทั่วไปที่ใช้ และข้อมูลที่ถูกต้องมีเพียงชื่อของผู้เสียหายเพียงเท่านั้น ข้อมูลอื่นๆเป็นการทำขึ้นมา / และการกระทำดังกล่าวในการเอาข้อมูลส่วนบุคคลไปโพสลงใน Story Facebook ไม่ได้รับการยินยอมจากตัวบุคคลและผู้ปกครอง จึงมีความผิดตามพ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) 2562 จำคุกไม่เกิน 1 ปีปรับไม่เกิน 1 ล้านบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดในส่วนของการปลอมแปลงเอกสารด้วย ในวันเสาร์นี้จะมีการนัดผู้ปกครองและตัวผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิดต่อไป