ข่าวเย็นประเด็นร้อน - แม่ร้องกองปราบฯ ลูกชายโดนนางนกต่อวางยาสลบไปโผล่ปอยเปต บังคับทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เรียกค่าไถ่ 2 ล้านบาท แลกอิสรภาพ
ช่วงเช้าที่ผ่านมา จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ พา นางขจร อายุ 48 ปี และ นายบุญหลง อายุ 27 ปี แม่และพี่ชายต่างบิดาของ นายเจตน์สฤษฏ์ อายุ 21 ปี ที่ถูกนางนกต่อสาวทักแช็ตคุยทาง IG เชิงชู้สาว ชวนออกไปข้างนอก สุดท้ายไปโผล่ที่ประเทศกัมพูชา
นางขจร เปิดเผยว่า ช่วง 16.00 น. วันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา ลูกชายเดินมาบอกตน ว่า "เดี๋ยวหนูมา จะออกไปทำธุระแป๊บหนึ่ง" แต่ไม่ได้บอกว่าออกไปไหน จากนั้นตนก็เห็นรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง มาจอดหน้าบ้าน ลูกชายก็ขึ้นรถไปทันที จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อลูกชายได้อีก จนกระทั่งวันที่ 27 มกราคมลูกชายคนโต มาถามหาน้องชายคนที่หายไปว่าแม่รู้หรือไม่ว่าหายไปไหน ก่อนบอกตนว่าลูกชายไปทำงานที่ปอยเปตแล้ว พอได้ยินก็ตกใจว่าทำไมลูกชายไปถึงนั้นได้ ทั้งที่ออกจากบ้านไปเพียงเสื้อผ้าชุดเดียว และไม่ได้มีบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตติดตัวไปด้วย
จากนั้นลูกชายคนที่ถูกหลอกไปทำงาน ได้ส่งข้อความมาหาพี่บอกว่า วันดังกล่าว เมื่อขึ้นรถแท็กซี่ไปก็ถูกผู้หญิงที่คุยและรู้จักกันในไอจี ใช้ถุงดำคลุมหัว ก่อนให้ดื่มน้ำ จากนั้นก็ไม่มีสติ มารู้สึกตัวอีกก็ไปโผล่ที่ปอยเปต กัมพูชา แล้ว พี่ชายถามกลับไปว่า อยู่ที่นั่นทำอะไรหรือโดนทำร้ายหรือไม่ ลูกชายพิมพ์แช็ตมาบอกว่าถูกสั่งให้เป็นคอลเซ็นเตอร์ ให้โทรหลอกคนไทย โดยทางนั้นมีข้อมูลให้พูดตามสคริปต์ หรือถ้าอยากจะกลับเมืองไทย ก็ต้องนำเงินจำนวน 60,000 ดอลลาร์ หรือ 2 ล้านบาท มาไถ่ตัว ถ้าไม่มีก็ต้องทำงานใช้หนี้ไปจนครบ 9 เดือน เขายังบอกอีกว่ามีคนไทยอยู่ที่ปอยเปตเหมือนกันอีกประมาณ 50 คน ส่วนใครคิดจะหนีก็จะถูกทำร้าย
นางขจร บอกอีกว่า ตนรู้สึกเป็นห่วงลูกชายมาก และไม่มีเงินจำนวน 2 ล้านบาท ไปไถ่ตัวลูก ที่ผ่านมาลูกเคยบอกให้แม่ระวังเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่คิดว่าลูกจะถูกหลอกเสียเอง จึงไปแจ้งความที่ สน.จรเข้น้อย เชื่อว่าหญิงที่คุยกับลูกเป็นนางนกต่อรับหน้าที่หลอกลูกชายอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งไปขายให้ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์
โดย ตำรวจ สน. จรเข้น้อย รับแจ้งไว้เมื่อ 26 มกราคมที่ผ่านมา เป็นคดีคนหาย แนะนำให้พยายามติดต่อผู้หญิงคนที่เชื่อว่าเป็นนางนกต่อ คาดว่าน่าจะยังอยู่ในไทย พร้อมกับพยายามไล่หากล้องวงจรปิดตั้งแต่ขึ้นแท็กซี่ที่หน้าบ้าน ไปตลอดเส้นทาง
