เตรียมคุมตัวฝากขัง พีม และเพื่อนร่วมแก๊ง 8 คน บ่ายนี้

View icon 139
วันที่ 11 ก.พ. 2568 | 11.13 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตำรวจเตรียมคุมตัว "พีม" มือสาดน้ำซุปร้อนใส่คู่กรณีได้รับบาดเจ็บ พร้อมเพื่อนร่วมแก๊ง 8 คน ไปฝากขัง ช่วงบ่ายวันนี้

ช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่ สภ.คลองหลวง แม่ของ นายรษิภา หรือ พีม อายุ 22 ปี นำข้าวเหนียวหมูมาฝากลูก และยังคงยืนยันว่าจะไม่ยื่นประกันตัวลูก เพราะอยากให้ลูกทำใจรับสภาพและให้เป็นบทเรียนชีวิต ส่วนพฤติกรรมความรุนแรงจะเข้าข่ายมีอาการป่วยทางจิตหรือไม่ แม่บอกว่า ไม่ทราบ เพราะเพิ่งคุยกับเพื่อนของลูก พร้อมยอมรับตั้งแต่คบเพื่อนกลุ่มใหม่นิสัยลูกก็เปลี่ยนไป

แม่ยังบอกอีกว่า ขณะนี้ยังไม่เจอผู้เสียหาย จึงอยากขอโทษทุกคน และขอโทษผู้ปกครองทุกคน เป็นความบกพร่องของแม่ด้วยที่ห่างเหินกับลูก เข้มงวดกับเขาไม่เต็มที่

ระหว่างสื่อมวลชนรอทำข่าว พนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง คุมตัว พีม และโยชิ ไปขออำนาจศาลฝากขัง ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี ร่วมกับผู้ต้องหาคดีอื่น แต่สุดท้ายก็ต้องนำตัว พรีมและโยชิ กลับมาเพราะว่าจะควบคุมตัว พรีมและพวกทั้งหมดรวม 8 คน ไปฝากขังครั้งเดียวกัน เวลา 13:00 น.

ทั้งนี้ผลการสอบปากคำ พีม เรื่องทีมขายพอร์ตเค ซีเต้ และปาร์ตี้ที่เพื่อนร่วมหุ้นด้วยกัน ยอมรับว่า ร่วมกันลงทุนขายบุหรี่ไฟฟ้าจริง แต่ไม่ได้ขายพอร์ตเค และไม่ได้จ่ายส่วยให้ตำรวจในการขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนกรณีคลิปเสียงบังคับให้ผู้เสียหายวัดดวงดื่มเครื่องดื่มผสมไซยาไนด์ พีมให้การว่า ไม่ได้ทำจริง แต่เป็นการข่มขู่ผู้เสียหายให้กลัวเท่านั้น

ปฏิกิริยาป้าข้างบ้าน ตกใจพฤติกรรม "นายพีม" หรือเดิมชื่อนายฟลุ๊ก ก่อเหตุสาดน้ำซุปใส่รุ่นน้อง วันนี้ ฝากขังย่าอยากให้หลานชายชดใช้กรรม ที่ผ่านมาครอบครัวดูแลอย่างดี เพื่อส่งเสียหลานให้เรียนสูง ๆ

ย่าของนายพีม อายุ 75 ปี หรือ ฟลุ๊ค คลองเตย เปิดใจ เลี้ยงหลานชายมาแต่เล็กแต่น้อย ยอมรับว่าเสียใจ แต่อยากให้หลานได้ชดใช้กรรม ทางครอบครัว ยืนยัน ให้กระบวนการยุติธรรม ได้ทำหน้าที่ ซึ่งตอนนี้ย่าเองก็รู้สึกเครียด กินไม่ได้ นอนไม่หลับ หนำซ้ำยังมีโทรศัพท์โทร เข้ามาหาเกือบวันละ 100 สายตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น จนรับไม่ไหว

ย่า บอกอีกว่า ตอนเด็ก ๆ หลานเป็นเด็กเรียบร้อย ไม่ดื้อไม่ซน และไม่เคยแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวให้เห็น เลิกเรียนมาก็กลับเข้าบ้านทันที ไม่ได้ออกไปสุงสิงกับเด็กคนอื่น จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงมหาลัย หลานชายก็ไม่ค่อยได้กลับมาที่แฟลต นาน ๆ ครั้งถึงจะกลับมา ซึ่งเมื่อเทอมที่แล้ว หลานชายมาบ่นให้ฟังว่ายังค้างค่าเทอมอยู่เกือบ 50,000 บาท และพูดถึงเพื่อนที่มหาลัย ที่มาชักชวนให้ไปขายบุหรี่ไฟฟ้าเพราะรายได้ดี ซึ่งย่าก็ได้ห้ามไม่ให้หลานไปยุ่งเกี่ยว และคอยเตือนอยู่เสมอ แต่หลานคงจะไม่เชื่อฟัง

นอกจากนี้ ทางครอบครัวไม่กล้าสู้หน้าเพื่อนบ้าน เพราะรู้สึกอับอาย ต่อพฤติกรรมหลานชาย ขอให้เรื่องนี้ เป็นบทเรียน

ขณะที่ เพื่อนบ้าน ต่างรู้สึกตกใจ เพราะไม่คิดว่ามือสาดน้ำซุป จะเป็นคนคุ้นเคย ยืนยันว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา นายพีมเป็นเด็กเรียบร้อย ไม่ได้ก้าวร้าว ซึ่งคิดว่าคงเป็นเพราะสังคมที่มหาลัยถึงทำให้นายพีมมีพฤติกรรมรุนแรงแบบนี้

สำหรับประวัติของ นายรษิภา หรือ พีม จบการศึกษา รับปริญญาไปแล้ว จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ และได้กลับมาลงเรียนต่ออีกครั้ง โดยคาดว่าที่กลับมาลงเรียน เพราะต้องการทำธุรกิจขายบุหรี่ไฟฟ้า

สิ่งที่เพื่อนแฉ คือ พีมไม่ได้ขายแค่พอตทั่วไป ยังมีพอตเค หรือ ชื่อเต็ม ๆ คือ เคตามีน เป็นยาเสพติดประเภทหนึ่ง ออกฤทธิ์หลอนประสาท ช่วยทำให้เคลิ้ม มีความสุขชั่วครู่

ซึ่งก่อนหน้านี้ นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เคยออกมาเตือน "หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าผสมยาเค" หรือ "พอตเค" อันตรายถึงชีวิต

โดย "พอตเค" มีส่วนผสมของ "เคตามีน" ผสมอยู่ในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ออกฤทธิ์หลอนประสาท ทำให้เกิดการเคลิบเคลิ้ม มีความสุขชั่วครู่ และเกิดภาพฝัน ในจินตนาการ

หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อันตรายถึงชีวิต นอกจากนี้ การใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้เกิดการติดยา ทั้งทางร่างกาย และจิตใจ ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า มีโทษทั้งจำทั้งปรับ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง