ไม่ต้องตื่นตะหนก ไข้หวัดพาราอินฟูลเอ็นซ่า "หมอยง" เผยไม่ใช่ไวรัสระบาดใหม่ ความรุนแรงแต่ละคนไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของร่างกาย
วันนี้ (13 ก.พ.68) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์จุฬา ใช้พื้นที่เฟซบุ๊กส่วนตัวให้ข้อมูลถึกรณีที่มีการส่งข่าวต่อ ๆ กันว่าขณะนี้ มีการระบาดของ พาราอินฟูลเอ็นซ่า อย่างมากและเป็นอันตราย และเป็นไวรัสระบาดใหม่ ระบาดในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ พบบ่อยรองจาก RSV
หมอยง จึงอยากให้ข้อมูลที่ถูกต้อง โดยระบุว่า ไวรัสตัวนี้ไม่ได้พบบ่อยรองจาก RSV อย่างที่พูด และไม่ได้เป็นไวรัสใหม่ แต่เป็นไวรัสที่รู้จักกันมากว่า 50 ปี ถ้าเรียงลำดับเชื้อไวรัสที่เกิดโรคทางเดินหายใจที่พบบ่อย ก็จะเป็น rhinovirus พบบ่อยที่สุด ส่วนที่พบรองลงมาก็คงจะเป็นโควิด 19 ไข้หวัดใหญ่ RSV และรองลงไปก็คงจะเป็น พาราอินฟูลเอ็นซ่า ที่พบพอ ๆ กับ HMPV นอกจากนี้ยังมี adenovirus coronavirus etc ก็ไม่แปลกอะไรเลยยังมีวันละ 10 เป็นจำนวนมากที่ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ
ไวรัสนี้อยู่คนละกลุ่มกับไข้หวัดใหญ่ ไวรัสนี้ พบได้ตามฤดูกาล แต่อุบัติการณ์ไม่ได้มาก มีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ คือสายพันธุ์ที่ 1 ถึงสายพันธุ์ที่ 4 แต่ละปีจะมีการพบแตกต่างกันไป อาการของโรคจะเหมือนหวัดทั่ว ๆ ไป และบางครั้งคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ ความรุนแรงแต่ละคนไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของร่างกาย เช่นเดียวกันกับโรคทางเดินหายใจทั่ว ๆ ไป ในเด็กเล็กโดยเฉพาะต่ำกว่า 1 ขวบ และผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัว เช่น 608 หรือ 708 ที่เราเรียกกัน ก็จะมีความรุนแรงมากกว่า
หมอยง ระบุด้วยว่าไข้หวัด พาราอินฟูลเอ็นซ่า ไม่มียารักษาจำเพาะ รักษาตามอาการ การวินิจฉัยโดยทั่วไปไม่มีความจำเป็นต้องรู้ เพราะถ้าต้องการตรวจให้รู้จะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ที่ศูนย์ศึกษาอุบัติการณ์ของไวรัสต่าง ๆ จะทำเฉพาะในงานวิจัยเท่านั้น เพื่อเป็นข้อมูลแต่ละปี ดังนั้นไม่มีอะไรน่าตื่นตระหนกเลย เป็นโรคที่พบเป็นประจำหรือพบได้ตามฤดูกาลของโรคทางเดินหายใจอยู่แล้ว