ฟ้องแล้ว อัยการคดีพิเศษยื่นฟ้อง ลูก-เมียหมอบุญ กับพวกรวม 13 คน คดีเเชร์ลูกโซ่-ฉ้อโกงประชาชน กว่า 1.6 หมื่นล้าน แจ้งดีเอสไอนำตัว หมอบุญ และพวกที่หลบหนี มาฟ้องภายในอายุความ 15 ปี
วันนี้ (14 ก.พ.68) เวลา 10.00 น. นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ภายหลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งมอบสำนวนคดีที่กล่าวหา นายบุญ วนาสิน กับพวกรวม 16 คน ผู้ต้องหา ฐาน “ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” เหตุเกิดเมื่อประมาณปี 2553 ถึงวันที่ 15 ธ.ค.2567 ต่างกรรมต่างวาระกัน ในท้องที่แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง, แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร และหลายท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเกี่ยวพันกัน คิดเป็นค่าเสียหายประมาณ 16,100,602,806 บาท ให้พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด
เนื่องจากคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก มีมูลค่าความเสียหายสูง รวมทั้งเป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ ถือเป็นคดีสำคัญ สำนักงานคดีพิเศษได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานร่วมกัน เพื่อพิจารณาคดีดังกล่าวตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด และให้มีการรายงานผลการพิจารณาคดีดังกล่าวแก่อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เพื่อมีความเห็น ซึ่งขณะนี้สำนักงานคดีพิเศษได้พิจารณาสำนวนดังกล่าวแล้วมีความเห็นและคำสั่ง ดังนี้
1.สั่งฟ้อง น.ส.จิดาภา ผู้ต้องหาที่ 2, น.ส.ศิวิมล ผู้ต้องหาที่ 3, นางจารุวรรณ วนาสิน ผู้ต้องหาที่ 4 ภรรยาหมอบุญ, นางนลิน วนาสิน ผู้ต้องหาที่ 5 ลูกสาวหมอบุญ, น.ส.อัจจิมา ผู้ต้องหาที่ 6, นายภาคย์ ผู้ต้องหาที่ 7, นางภัทรานิษฐ์ ผู้ต้องหาที่ 8, นายธนภูมิ ผู้ต้องหาที่ 9, นางณวรา ผู้ต้องหาที่ 10, น.ส.มาสฤดี ผู้ต้องหาที่ 13, นายเนติวรรธน์ ผู้ต้องหาที่ 14, น.ส.นัญญากรณ์ ผู้ต้องหาที่ 15 และน.ส.ชัญญ์ญาณ์ ผู้ต้องหาที่ 16 ตามข้อกล่าวหา ฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 3, 4, 5, 9, 12 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 และ 343 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 พ.ศ. 2534 มาตรา 3, พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545, พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4
2. เห็นควรสั่งฟ้อง นายบุญ วนาสิน ผู้ต้องหาที่ 1, น.ส.กชพร สุวรรณกูฏ ผู้ต้องหาที่ 11 และน.ส.ฐิติพร เฉลิมรัตนประทีป ผู้ต้องหาที่ 12 ตามข้อกล่าวหาฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 3, 4, 5, 9, 12 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 และ 343 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 พ.ศ. 2534 มาตรา 3, พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545, พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4
โดยผู้ต้องหาที่ 2-10 และที่ 13-16 ซึ่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษมีคำสั่งฟ้องนั้น พนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษจะได้ดำเนินการยื่นฟ้องผู้ต้องหาที่ 2-10 และที่ 13-16 ต่อศาลอาญาในวันนี้ ส่วนนายบุญ ผู้ต้องหาที่ 1, น.ส.กชพร ผู้ต้องหาที่ 11 และน.ส.ฐิติพร ผู้ต้องหาที่ 12 ซึ่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษมีคำสั่งเห็นควรสั่งฟ้องนั้น ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง จึงได้แจ้งให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษจัดการให้ได้ตัวมาดำเนินคดีภายในกำหนดอายุความ 15 ปีนับแต่วันกระทำความผิด ส่วนผลความคืบหน้าทางคดีเป็นประการใด สำนักงานอัยการสูงสุดจะแถลงให้ทราบต่อไป