จับคาสนามบิน ดีเอสไอ รวบโบรกเกอร์คนสุดท้าย ร่วมหมอบุญฉ้อโกง เสียหายกว่า 1.6 หมื่นล้าน ยังเร่งติดตามตัวหมอบุญ มาดำเนินคดี
วันนี้ (16 เม.ย.68) ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย ร.ต.อ.ทินวุฒิ สีละพัฒน์ ผอ.กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ, นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผอ.กองกิจการอำนวยความยุติธรรม, ร้อยโท ธีรนิติ วิริยะกิตติ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว และ พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม รองผู้บัญชาการประจำสำนักงาน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.เดโช โสสุวรรณากุล รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงข่าวร่วมกันจับกุมตัว น.ส.กชพร ผู้ต้องหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน จับกุมได้ที่สนามบินนานาชาติดอนเมือง หลังเดินทางกลับเข้าไทย โดย น.ส.กชพร เดินทางหลบหนีออกจากประเทศไทย ตั้งแต่เดือน ก.ย.67
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ กองกิจการอำนวยความยุติธรรม ได้รับโอนสำนวนการสอบสวนคดีอาญาจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.67 มีผู้กล่าวหาและผู้เสียหาย จำนวนกว่า 605 ราย ปรากฏมูลค่าความเสียหาย 16,100,602,806 บาท ได้ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมอายัดทรัพย์และส่งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษดังกล่าวไปยังพนักงานอัยการ เมื่อวันที่ 27 ม.ค.68 มีความเห็นควรสั่งฟ้องนายแพทย์บุญ กับพวกรวม 16 ราย แต่มีผู้ต้องหา 3 ราย ได้แก่ นายแพทย์บุญ, น.ส.กชพร และ น.ส.ฐิติพร หลบหนีไปยังต่างประเทศ จึงแจ้งไปยังองค์การตำรวจสากล (INTERPOL) ออกประกาศตำรวจสากลสีแดง (Red Notice) ซึ่งก่อนหน้านี้กรมสอบสวนคดีพิเศษและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.ฐิติพร โบรกเกอร์ของนายแพทย์บุญได้เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ น.ส.กชพร เป็นผู้ต้องหารายที่ 15 ที่ถูกจับกุมตัวในคดีพิเศษที่ 136/2567 มีพฤติการณ์เชิญชวนให้ประชาชนร่วมลงทุนโดยการนำเงินมาให้นายแพทย์บุญ กับพวกกู้ยืม ต่อมาไม่จ่ายผลตอบแทนและไม่คืนเงินต้น จึงเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้ติดตามจับกุมตัวนายแพทย์บุญ ที่ยังหลบหนีอยู่เพื่อนำมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป