ตำรวจไม่หนักใจ คดีฆาตกรรมอำพราง 3 ศพ พ่อ แม่ ลูก ซุกร่างในรถกระบะ ล่าสุดเค้นสอบเจ้าของปืน คนสนิทน้องชายคนตาย และพบเจ้าของเบอร์โทรปริศนาที่ส่ง SMS เป็นแรงงานชาวเมียนมา และคนไทย
วันนี้ ( 14 ก.พ.68) หลังจากตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดี ได้ประชุมร่วมกันนานกว่า 2 ชั่วโมง พล.ต.ต.อมรศักดิ์ เกษมก์สิริ รอง ผบช.ภาค 6 พร้อม พล.ต.ต. โอภาส คงเมือง ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร ,พ.ต.อ.เอนก จันทร์สอน รอง ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร และพ.ต.อ.รัฐศรัณย์ เกตุสิงห์สร้อย ผกก. สภ.คลองขลุง ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ ตำรวจนำนายศิวกรมาสอบปากคำ โดยให้การว่า ได้เอาปืนมาจำนำกับผู้ตาย ซึ่งตำรวจเชื่อว่าเป็นปืนกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ก่อเหตุ และมีความสนิทสนมกับน้องชายของผู้ตายด้วย
ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายศิวกร ว่าเดินทางมาให้ปากคำเรื่องอะไร แต่ตอบเพียง ว่าตนยังไม่ใช่ผู้ต้องหา ยังไม่มีความผิด แค่เดินทางมาให้ปากคำกับตำรวจเท่านั้น เมื่อถามถึงการนำปืนไปจำนำผู้ตาย แต่นายศิวกรไม่ยอมตอบคำถาม และเมื่อถามว่า ได้โทรออก หรือรับสายเบอร์ปริศนาของชาวเมียนมาหรือไม่ นายศิวกร ก็เผลอตอบมาว่า ตนโทรเป็นปกติทุกวันอยู่แล้ว แต่พอผู้สื่อข่าวย้ำ โทรปริศนา นายศิวกรเหมือนได้สติ มีอาการเอะอะ และไม่ได้ตอบคำถามอะไรอีก พร้อมพูดสั้น ๆ ว่า ผมก็รู้พร้อม ๆ กับพวกพี่ ก่อนจะเดินเข้าห้องสอบสวนไปอีกครั้ง
ส่วนประเด็นเรื่องเบอร์โทรศัพท์ปริศนานั้น ยืนยันว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนด้วยคนงานชาวเมียนมา และคนไทย ซึ่งเป็นบุคคลปริศนา ซื้อมาใช้เพื่อส่งข้อความมาหาน้องชาย รวมถึงยังมีการเชื่อมโยงโทรไปหาบุคคลอื่น ๆ ซึ่งในส่วนนี้ตำรวจได้มีการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้
ส่วนอาวุธปืนที่ทราบว่า เป็นปืนบีบีกันดัดแปลงเป็นอาวุธปืนจริง ซึ่งเป็นปืนที่ผู้ตายเป็นผู้ครอบครอง ในส่วนนี้ตำรวจยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากยังไม่พบปืนที่ใช้ก่อเหตุ สำหรับผลการชันสูตรทั้งสามศพ เบื้องต้น พบบาดแผลจากรอยกระสุนที่ศีรษะ ทั้ง 3 คน แต่ยังให้รายละเอียด เรื่องจำนวนนัดที่ยิงไม่ได้ ต้องรอผลชันสูตรอย่างละเอียดหลังจากนี้
