ตำรวจท่องเที่ยว สกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ย้ายฐานพาเหยื่อคนจีนไปปอยเปต หลังเมืองเมียวดีถูกกดดันตัดไฟ-น้ำมัน เหยื่ออยากกลับบ้าน ใช้โทรศัพท์แจ้งตำรวจจับได้กลางแยกไฟแดง
วันนี้ (14 ก.พ.68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.2 ร่วมกับ ส.ทล.5 กก.3 บก.ทล. ,กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และ สภ.เขาสิงห์โต จ.สระแก้ว ร่วมกันแกะรอยจับกุม นายชัยวิชิต อายุ 43 ปี ข้อหาช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม, นายจาง ซิ่ง ตง อายุ 24 ปี สัญชาติจีน ข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยเกินกว่าที่ได้รับอนุญาต, นายชิง หยู อายุ 22 ปี, นายถัง โหย่ว อายุ 21 ปี, นายจี้ หมิน เจีย อายุ 23 ปี และนายถัง เจี๋ย อายุ 16 ปี ทั้งหมดเป็นบุคคลสัญชาติจีน ข้อหาบุคคลต่างด้าวลักลอบเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยมิได้ได้รับอนุญาต พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 19 เครื่อง, รถยนต์สีดำ 1 คัน
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก นายชัยวิชิต ได้รับการติดต่องานจากนายเต๋าให้ไปรับคนสัญชาติจีน 5 คน จาก อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ให้ไปส่งที่ ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ระหว่างเดินทางมาถึงสี่แยกบ้านแก้ง ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ได้หยุดรอสัญญาณไฟแดงก็ถูกตำรวจเรียกตรวจสอบและจับกุมดังกล่าว
จากการสอบถาม กลุ่มคนจีนผ่านล่ามแปลภาษา ให้การว่า นายจาง ซิ่ง ตง ใช้โทรศัพท์ส่วนตัวโทรแจ้งเหตุเพื่อขอความช่วยเหลือจากตำรวจท่องเที่ยวว่า ตนเองและกลุ่มเพื่อนคนจีนถูกหลอกมาทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา แต่หลังจากทางการไทยกดดันตัดกระแสไฟฟ้า ตัดน้ำมัน แก๊งคอลเซ็นเตอร์จึงจะย้ายฐานที่ตั้งไปทางปอยเปต ฝั่งกัมพูชา โดยพากลุ่มคนจีนเตรียมจะเดินทางไปทาง จ.สระแก้ว แต่ตนเองและเพื่อนชาวจีนอยากเดินทางกลับประเทศ
ทั้งนี้ จากการซักถามข้อมูลและการสอบสวนขยายผลทราบว่า ภายหลังจากรัฐบาลไทยกดดันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมา ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์มีแผนที่จะย้ายฐานที่ตั้งไปอยู่ฝั่งกัมพูชา และพาคนจีนกลุ่มดังกล่าวไปประเทศกัมพูชา โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน และเตรียมเดินทางข้ามแดนทางฝั่งจังหวัดสระแก้ว แต่ถูกสกัดจับไว้ได้ทั้งหมดอยู่ระหว่างขยายผลผู้ร่วมขบวนการต่อไป