เช้านี้ที่หมอชิต - คืบหน้า ร่าง พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ กฤษฎีกา ก็พิจารณาเสร็จแล้วซึ่งประเด็นสำคัญเรื่อง กาสิโน ก็เคาะแล้วว่า มีแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น
คลอดแล้ว ร่าง พ.ร.บ.เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
หลัง กรรมการกฤษฎีกา ปรุงแต่งใหม่ กระทั่งคลอดร่างแรกออกมา มี 79 มาตรา ใจความหลักสำคัญ อยู่ที่มาตรา 18 (6) คือการกำหนดให้ในเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีกาสิโน ได้เพียงแค่ 10% เท่านั้น
ซึ่งต่างจากร่างที่ ครม. ส่งให้กฤษฎีกา ตอนนั้นไม่กำหนดขอบเขตเอาไว้ว่าต้องมีกี่เปอร์เซ็นต์ จนเกิดเสียงวิจารณ์หนาหูเมื่อมาอยู่ในมือของกฤษฎีกา ก็กำหนดไว้เพื่อความชัดเจน โดยแหล่งข่าวจากกฤษฎีกา บอกว่า จริง ๆ แล้วก็เป็นไปตาม ความต้องการแรกของ ครม. ที่เคยให้ข่าวเอาไว้ กฤษฎีกา ในฐานะเชฟ ก็ปรุงแต่งตามความต้องการลูกค้า แต่หากจะปรับเปลี่ยนก็ทำได้ในชั้นการพิจารณาของกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร
นอกจากนี้ ยังกำหนดให้มีธุรกิจอื่นในเอนเทอร์เทนเมนต์ฯ อย่างน้อย 4 ธุรกิจ จาก 10 ธุรกิจ ที่กำหนดไว้ในบัญชีแนบท้ายกฎหมาย อาทิ ห้างสรรพสินค้า, โรงแรม, ร้านอาหาร, และพื้นที่ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย และสินค้าโอทอป รวมทั้งกิจการอื่น ๆ
ก็พอเห็นรูปร่างแล้ว แต่ทั้งหมดทั้งมวล จะอยู่ภายใต้ ซูเปอร์บอร์ด ที่มี นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมกรรมการอีก 15 คน ทำหน้าที่พิจารณาทุกอย่าง ทั้งสถานที่ตั้ง การออกใบอนุญาต แผนงบประมาณ ค่าธรรมธรรมเนียม เป็นต้น
ส่วนผู้ที่จะมาร่วมทุน ต้องเป็นบริษัท มีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท, ใบอนุญาตมีอายุ 30 ปี และประเมินผลดำเนินงานทุก 5 ปี ทั้งนี้ หากไม่ปฏิบัติตามแผน อาจเพิกถอนใบอนุญาต
หวั่นร่างกฎหมายสถานบันเทิง เปิดช่องเอื้อนายทุน
ขณะที่ วงเสวนาชำแหละร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร บรรดานักวิชาการ ภาคประชาสังคม ชี้ช่องโหว่กฎหมายอาจมีการตีเช็คเปล่าให้ซูเปอร์บอร์ดฯ เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุน เสี่ยงทุจริตในการให้ใบอนุญาตแก่ผู้ประกอบการ พร้อมเตือน หากประเทศยังไม่พร้อมจะมีกาสิโน ก็อย่าเร่ง ต้องพิจารณาให้รอบคอบ ควรทำประชามติ ถามประชาชนก่อน อย่าปล่อยให้รัฐบาลตัดสินใจฝ่ายเดียว