ห้องข่าวภาคเที่ยง - สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่ง หรือ ส.อบต. ในพื้นที่จังหวัดแพร่ มีพฤติกรรมลวนลาม ชักชวนหลับนอนเด็กและเยาวชนถึง 4 คน อายุ 12-17 ปี
ฟังแล้วดูเหมือนกับว่าเอ็นดูเด็กสาวที่อยู่ปลายสาย เป็นห่วงเป็นใย อยากจะชวนไปนู่นนี่นั่น และจะเข้าไปหาที่ห้องพัก ต้องปลอดคนเปิดประตูทิ้งไว้ แต่มีเงื่อนไขว่าห้ามบอกใครเป็นความลับ เป็นคลิปเสียงการสนทนาระหว่าง ส.อบต. กับเด็กสาวผู้เสียหาย ที่ตกเป็นเหยื่อ
นอกจากนี้ยังมีภาพวงจรปิดเป็นภาพที่มีชายเสื้อสีเขียว เดินนำหน้าเด็กหญิงเสื้อสีน้ำเงิน เดินขึ้นไปสำนักงาน ประมาณ 1-2 นาที เด็กหญิงเดินลงมากลับไปทางเดิม แต่ ส.อบต. เดินทางมาจากทางเดินเดิม แต่ข้ามถนนไปอีกฝั่งหนึ่ง เป็นหลักฐานที่ผู้ปกครองของผู้เสียหายนำแจ้งตำรวจ สภ.บ้านกวาง เพื่อเอาผิด เพราะมีพฤติกรรมลวนลาม ชักชวนหลับนอน จับหน้าอก จับมือถือแขน และหอมแก้ม โดยให้เงิน 100 บาท แลกกับห้ามบอกใคร
กระทั่งมีชาวบ้านกว่า 30 คน ทนไม่ไหว จึงรวมตัวตั้งขบวนขับไล่ ส.อบต. คนดังกล่าว โดยขี่รถไปรอบหมู่บ้าน ก่อนจะเดินทางมา อบต.บ้านเหล่า เพื่อกดดันให้ลาออก หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีความพยายามจะขอไกล่เกลี่ย โดยจะจ่ายเงินให้ผู้เสียหาย ทั้ง 4 คน คนละ 20,000-30,000 บาท แต่ผู้ปกครองไม่รับจะขอดำเนินคดีถึงที่สุด
ล่าสุด สอบถามไปยังนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเรา บอกว่า เบื้องต้น เจ้าตัว ส.อบต. คนดังกล่าวนั้นได้ทำเรื่องลาออกไปแล้ว จะมีผลเมื่อนายอำเภอสูงเม่นเซ็นคำสั่ง ก็จะมีผลทันที ส่วนทางคดีตำรวจได้เรียกผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหา สอบปากคำแล้ว รอผลการสอบสวน แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา
ส่วนที่จังหวัดระยอง เป็นคลิปที่สมาชิก อบต. รายนี้ อาละวาดอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่ง และเป็นสาเหตุที่ทำให้ถูกตำรวจ สภ.เมืองระยอง นำตัวไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก จนนำไปสู่คลิปการปะทะคารม โชว์กร่างใส่ตำรวจ และมีการแชร์ออกไปในสื่อโซเชียลมีเดีย กล่าวหาว่าตำรวจทำร้ายร่างกาย และไม่ให้เกียรติ จนผู้กำกับการ สภ.เมืองระยอง ต้องออกมาชี้แจงว่าตำรวจทำทุกอย่างตามขั้นตอน ตามยุทธวิธีอย่างถูกต้อง แต่ก็จะสอบสวนให้ความเป็นธรรมตามที่สมาชิก อบต. คนดังกล่าว กล่าวหา
ด้าน สมาชิก อบต. เปิดใจว่า ได้ขับรถไปที่แยกตะพง จังหวะติดไฟแดง ข้างหน้ามีรถจักรยานยนต์ของวัยรุ่นจอดชิดอยู่ จากนั้นตนจึงได้กะพริบไฟเตือน วัยรุ่นจึงหันมามองหน้า พอช่วงไฟเขียวตนจึงขับรถตาม แต่ว่าตามไม่ทัน ต่อมาได้แวะกินก๋วยเตี๋ยวตรงปากทางยายดา แล้วก็ไปเจอกับคู่กรณี โดยได้พาพวกมาหลายคน จึงเกิดเหตุการณ์ยกเก้าอี้ตามคลิป ตนยืนยันว่ายังไม่ได้ทำร้ายใคร ไม่นานนักตำรวจที่ป้อมตะพงมายังจุดเกิดเหตุ หาว่าตนเองเมา แต่ตนเองขอยืนยันว่าไม่ได้ดื่มเหล้า หลังจากนั้นก็ได้มีการเชิญตัวตนไปที่โรงพักและก็เกิดเหตุดังกล่าวบนโรงพักตามคลิปกล้องวงจรปิด
หลังตำรวจคุมตัวไปที่ห้องพักชั่วคราว ซึ่งไม่ใช่ห้องขัง ตำรวจได้ทำการล็อกกุญแจมือตนในท่ายืน นอนหรือนั่งก็ไม่ได้ พร้อมยึดมือถือตนเองไม่ให้ติดต่อใคร ตรงนี้ที่มีประเด็นที่หาว่าตนปาอุจจาระไปโดน ยืนยันว่าตนไม่ได้ปา แต่ยอมรับว่าทำลายทรัพย์สินในห้องจริง สาเหตุนั้นเกิดจากตนเองไม่ได้กินยาควบคุมสภาพจิตเพราะปัจจุบันตนเองต้องทานยาก่อนนอนตลอด เพื่อให้นอนหลับ หากไม่ได้กินยาก็จะเกิดความเครียด และมีอารมณ์ฉุนเฉียวควบคุมตัวเองไม่ได้