“วราวุธ” ยืนยัน ชง ครม.ผลักดัน โครงการเบี้ยผู้สูงอายุ 1,000 /เดือน จากเดิมที่เป็นแบบขั้นบันได
วันนี้ (21 ก.พ.68) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงกรณีพรรคฝ่ายค้านแสดงความผิดหวังที่รัฐบาลตีตกพระราชบัญญัติบำนาญพื้นฐานถ้วนหน้า และร่าง พ.ร.บ.บำนาญแห่งชาติและสวัสดิการผู้สูงอายุ ที่กำหนดให้ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และมีสัญชาติไทยได้รับบำนาญแห่งชาติเป็นจำนวนเงิน 3,000 บาทต่อเดือนต่อคน และร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุว่า ส่วนตัวมองว่า อย่าว่าแต่ 3,000 บาท ตนอยากจะให้ 10,000 บาทด้วยซ้ำไป เพราะว่า สถานการณ์เศรษฐกิจวันนี้ เงินทุกบาททุกสตางค์ จะสามารถช่วยบรรเทาภาระพี่น้องประชาชนได้ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า อย่าคิดแต่รายจ่ายอย่างเดียว ต้องคิดถึงรายได้ของภาครัฐด้วย
นายวราวุธ กล่าวว่า ขณะนี้มีเรื่องที่กระทรวงฯ พม.ส่งไปให้คณะรัฐมนตรี เป็นโครงการให้เบี้ยผู้สูงอายุ 1,000 บาทถ้วนหน้า โดยปัจจุบันเรามีเบี้ยผู้สูงอายุเป็นแบบขั้นบันได อยู่ที่ 600, 700, 800, และ 1,000 บาท ซึ่งใช้งบประมาณเกือบแสนล้านบาท แต่ถ้าหากเป็นเงิน 1,000 บาทถ้วนหน้าที่กระทรวงฯ พม.ชงเรื่องขึ้นไปใหม่ งบประมาณจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 1 แสน 7 หมื่น ถึง 1 แสน 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งยังอยู่ในวิสัยแบบกระเบียดกระเสียรกัน ซึ่งน่าจะยังพอไหว แต่ยังต้องรอความเห็นจากสำนักงบประมาณก่อน
อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวคือ 1,000 บาทต่อเดือน แต่ถ้าเป็น 3,000 บาทต่อเดือน ก็ต้องลองคูณสามเข้าไป ก็จะอยู่ที่ประมาณ 5 แสนล้านบาท เกือบ 6 แสนล้านบาท ดังนั้นหากรัฐบาลมีเงินถุงเงินถัง ตนเองไม่ขัดข้องเลย แต่ว่า วันนี้รัฐบาลมีข้อจำกัดทางด้านงบประมาณ
นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากมีการให้เงิน 3,000 บาทไปแล้ว และไปก่อปัญหาต่อการใช้งบประมาณในวงอื่น ซึ่งคิดว่า ไปแบบทีละขั้นตอนจะดีกว่า เชื่อว่า หากในอนาคตประเทศไทยมีเศรษฐกิจดีขึ้น และมีงบประมาณเพียงพอที่จะให้เงิน 3,000 บาท กระทรวงฯ พม.ก็เห็นด้วย ซึ่งวันนี้ตนเองก็เห็นด้วย แต่ปัญหาคือ รัฐบาลยังมีรายรับไม่เพียงพอ ที่จะมาสนับสนุนรายจ่ายที่จะเกิดขึ้น
ส่วนความคืบหน้าโครงการ 1,000 บาทถ้วนหน้า ขณะนี้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ส่งเรื่องไปที่ ครม.แล้ว ซึ่งอยู่ในขั้นตอนที่ ครม.กำลังขอความเห็นจากหน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น กรมบัญชีกลาง, สำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง ซึ่งต้องมาดูว่า งบประมาณ 1 แสน 8 หมื่นล้านบาท จะสามารถบริหารจัดการได้หรือไม่
ทั้งนี้หากไม่ติดปัญหาอะไร กระทรวงฯ จะเสนอเข้าไปในงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ พร้อมย้ำว่า หากไม่ติดปัญหาอะไร ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาอยู่