ฉาวโฉ่! อาจารย์มหาวิทยาลัย เมืองอุดร โพสต์คลิปสยิวขายฉ่ำ

ฉาวโฉ่! อาจารย์มหาวิทยาลัย เมืองอุดร โพสต์คลิปสยิวขายฉ่ำ

View icon 5.9K
วันที่ 26 ก.พ. 2568 | 18.49 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ฉาวโฉ่! อาจารย์มหาวิทยาลัย เมืองอุดรธานี โพสต์คลิปสยิวขายฉ่ำ ขโมยรถนักศึกษา ซ้ำเวลาสอนแค่เข้ามาสั่งงานไม่กี่นาทีแล้วก็นั่งเล่นโทรศัพท์ ล่าสุด ตั้งคณะกรรมการสอบแล้ว

26 ก.พ. 68 จากกรณีมีผู้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน กรณีอาจารย์มหาวิทยาลัย แห่งหนึ่ง ใน จ.อุดรธานี มีพฤติกรรมที่อาจจะเป็นอันตรายต่อนักศึกษา และกระทำผิดวินัยร้ายแรง โดยมีการลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ของนักศึกษา ซึ่งนักศึกษาแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์, เปิดบัญชีในแอปพลิเคชัน x เพื่อการโฆษณาขายภาพ วิดีโอทางเพศและสื่อลามกอนาจาร พร้อมโฆษณาเชิญชวนนักศึกษาให้เข้าไปดู ซึ่งสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย ทั้งแบบสาธารณะเข้าถึงได้ฟรีและแบบจ่ายค่าบริการ พร้อมกับนำภาพถ่ายในสถานที่ทำงานและสถานที่ราชการ ไปโพสต์เพื่อแสดงสถานะทางสังคมและหน้าที่การงานของตนเอง ซึ่งมีการร้องเรียนไปยังต้นสังกัด แต่ยังไม่มีการดำเนินการ เกรงว่าจะก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ขององค์กร รวมถึงความเหมาะสมในวิชาชีพ

ต่อมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ไปยังมหาวิทยาลัยดังกล่าว ในพื้นที่ อ.เมือง จ.อุดรธานี พบว่า เป็นช่วงหลังจากสอบประจำภาคเรียน ซึ่งนักศึกษาส่วนใหญ่จะกลับบ้าน มีเพียงเจ้าหน้าที่และอาจารย์เข้ามาทำงานเท่านั้น

โดยผู้สื่อข่าวได้พบกับ น.ส.น้อย (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี ผู้ร้องเรียน ซึ่งให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า อาจารย์คนดังกล่าวเข้ามาบรรจุที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ตั้งแต่ พ.ศ 2562 โดยหลังทำงานได้ 2 ปี ได้มีการลาศึกษาต่อปริญญาเอก โดยหลังจากที่ครบกำหนดการลาศึกษาต่อ อาจารย์คนดังกล่าวก็กลับมาที่มหาวิทยาลัย แต่มีพฤติกรรมไม่ค่อยจะเข้ามาที่มหาวิทยาลัย โดยปกติที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้จะมีการเซ็นชื่อเข้างานก่อน จากนั้นจึงจะแยกย้ายไปยังคณะต่าง ๆ ของตนเอง

ทั้งนี้ อาจารย์คนดังกล่าวอาจมีปัญหาส่วนตัว เพราะก่อนหน้าที่จะลาเรียนก็มีความต้องการที่จะกลับภูมิลำเนา โดยมีการทำเรื่องย้าย แต่ก็ไม่มีตำแหน่ง จึงทำเรื่องลาศึกษาต่อปริญญาเอก ซึ่งมีเปิดเรียนที่จังหวัดบ้านเกิดของอาจารย์คนดังกล่าว แต่หลังจากกลับมา ก็มีพฤติกรรมไม่เข้าคณะไม่เข้ามาทำงาน จากนั้นก็มีนักศึกษา เข้ามาพูดคุยเรื่องที่อาจารย์คนดังกล่าวไปเปิดเว็บ สื่อลามก ซึ่งนักศึกษาก็เห็น จึงมีการมาพูดคุยให้อาจารย์ที่คณะฟัง โดยนำภาพมาให้ดูและมีการสอบถามว่าใช่อาจารย์ที่นี่หรือไม่ ซึ่งก็ใช่อาจารย์คนดังกล่าวจริง

น.ส.น้อย กล่าวต่อว่า จากพฤติกรรมที่ไม่เข้าทำงานที่คณะ จึงมีการเฝ้าระวัง จับตาดู มีการตามเข้าไปดูในเว็บที่เปิดออกมา จนกระทั่งเห็นพฤติกรรมต่าง ๆ ที่อาจารย์คนดังกล่าวกระทำ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยตัวเองหรือการมีการมีเพศสัมพันธ์ มีการขายระบุราคา มีทั้งประกาศขายบริการ ซึ่งสิ่งต่าง ๆ ที่อาจารย์คนดังกล่าวได้กระทำ จึงหาหลักฐาน และยื่นเรื่องส่งถึงรองอธิการบดี รวมถึงมีเหตุเรื่องขโมยรถจักรยานยนต์ของนักศึกษา ซึ่งอยู่ระหว่างการตกลงระหว่างนักศึกษาและอาจารย์คนดังกล่าว

ตนมองว่า พฤติกรรมดังกล่าวไม่เหมาะสมในการที่จะอยู่ในฐานะอาจารย์ รวมถึงมีการร้องเรียนจากนักศึกษาถึงพฤติกรรมของอาจารย์อีกด้วย จึงได้รวบรวมหลักฐานร้องเรียนดังกล่าว ซึ่งไม่ได้กลั่นแกล้งหรือมีเจตนาอื่นใด เป็นเพียงความห่วงนักศึกษา ที่จะต้องเรียนกับอาจารย์ท่านนี้ ทำให้นักศึกษาไม่อยากเรียนมีผลต่อคณะและต่อหลักสูตรด้วย ทั้งนี้กิจกรรม มีนักศึกษามาเล่าให้ฟังว่า ไม่ได้เตรียมการเรียนการสอน พอเข้ามาที่ห้องเรียนก็จะให้เด็กค้นหาข้อมูลด้วยตนเอง เวลาพูดจากับเด็กก็ใช้คำที่ไม่สุภาพ ส่วนการแต่งกาย ก็จะแต่งตามสไตล์ของตนเอง มีบางครั้งที่แต่งตัวเรียบร้อย แต่กริยาท่านั่ง จะทำตัวตามสบายเหมือนอยู่บ้านตนเอง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

ด้าน รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยดังกล่าว เผยว่า ขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยมีคณาจารย์ภายในคณะมาปรึกษากับทางฝ่ายผู้บริหาร ซึ่งได้เห็นหนังสือร้องเรียนจากผู้ปกครองและเห็นพฤติกรรมต่าง ๆ ของอาจารย์คนดังกล่าวว่า มีพฤติกรรมดังกล่าวจริง จึงได้มีการทำหนังสือเสนอขึ้นไปยังส่วนกลาง เมื่อวันที่ 30 ม.ค.

ส่วนความคืบหน้าล่าสุด ทางส่วนกลางแจ้งว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการ ขึ้นมาสอบสวนกรณีดังกล่าวแล้ว คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่ เพราะทางวิทยาเขต ไม่ได้มีอำนาจที่จะลงโทษ หรือตัดสินความผิดที่มีลักษณะรุนแรงเช่นนี้

จากการสอบถามเพื่อนร่วมงาน ทราบว่า อาจารย์คนดังกล่าว มีพฤติกรรมของโรคซึมเศร้า ตนเองจึงพยายามดึงอาจารย์คนดังกล่าวเข้ามาร่วมงานกิจกรรมต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย เพื่อไม่ให้เกิดความเหงา ช่วงแรกก็เหมือนจะดีขึ้น แต่พอหลัง ๆ มาก็กลับมีอาการเช่นเดิมอีก

จากนั้น ปี 2564-2566 ก็ได้มีการยื่นขอศึกษาต่อระดับปริญญาเอก ซึ่งทางมหาวิทยาลัยก็ได้อนุญาต ช่วงหลังจากครบสัญญาลาศึกษา 3 ปี ก็กลับมาที่มหาวิทยาลัย ก็เกิดการหย่ากับภรรยา ซึ่งอาจารย์คนดังกล่าวก็โทษตนเองว่า เป็นเพราะตนเองเป็นคนไม่ดีเอง ภรรยาจึงหย่าร้าง ซึ่งก็พยายามปลอบ จนกระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีอาจารย์ในคณะนำหนังสือร้องเรียนขึ้นมาให้ เมื่อเห็นหลักฐาน ก็รู้สึกตกใจ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับจรรยาบรรณของวิชาชีพ จึงได้ทำเรื่องเข้าสู่ส่วนกลาง เพื่อพิจารณากรณีดังกล่าว

ขณะที่ นักศึกษาคนหนึ่ง ในมหาวิทยาลัยดังกล่าว เล่าฟังว่า ทราบเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 1 เทอม 1 ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่าศึกษาปีที่ 1เทอมที่ 2 โดยครั้งแรกมีเพื่อนเข้าไปดูข่าวต่าง ๆ ในโซเชียล เพื่อค้นหาข้อมูลประกอบการเรียน บังเอิญมาเจอเว็บไซต์นี้ แล้วก็เจออาจารย์ ทุกคนต่างตกใจ ส่วนตัวแล้วรู้สึกไม่โอเค เพราะเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัย จึงรู้สึกไม่โอเค ไม่น่าเรียนด้วย ซึ่งตนเองและเพื่อน ๆ ขณะเรียนไม่เคยได้ถามอาจารย์ว่า ทำไมถึงทำเช่นนี้ เพราะตัวอาจารย์เองเวลาเข้ามาสอน ก็แค่เข้ามาสั่งงาน ไม่กี่นาทีแล้วก็นั่งเล่นโทรศัพท์ ไม่สนใจนักศึกษา ทำให้ไม่อยากเรียน อยากให้ทางมหาวิทยาลัย ดำเนินการอะไรบางอย่าง ซึ่งถ้าความคิดของตนเองก็อยากให้เอาออกไป เพราะตนเองก็รักสถาบัน ไม่อยากให้มีอาจารย์ที่เป็นแบบนี้อยู่ในสถาบัน ทั้งนี้ในกลุ่มเพื่อนเองก็มีการพูดคุยกันถึงพฤติกรรมของอาจารย์ว่า มีพฤติกรรมไม่น่าเคารพ ด้วยเช่นกัน

ส่วนนักศึกษาอีกคน เผยว่า เจอกันครั้งแรก ไม่ได้สอนเรื่องวิชาการที่จะเรียน แต่สอนเรื่องการเข้าหา การนัดเจอผู้หญิง ต้องเริ่มจากยังไ งต้องบอกชื่อ สอนเทคนิคการนัดหมาย แนวทางที่ผู้หญิงจะชอบ พูดแบบไหนที่ผู้หญิงจะชอบมากกว่า ซึ่งพอได้ฟังก็พากันงงไปตาม ๆ กันว่า ทำไมต้องมาสอนเรื่องแบบนี้ เพราะไม่ได้อยู่ในสายที่เรียน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง