กลายเป็นข่าวทั่วโลก กรณีการหารือที่ทำเนียบขาว ระหว่าง ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และ รองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ ของสหรัฐฯ กับ ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เรื่องการสู้รบระหว่างยูเครนกับรัสเซีย กลับจบลงด้วยการมีปากเสียงกัน จนต้องยกเลิกการแถลงข่าว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
วานนี้ (1 มี.ค.) ประธานาธิบดีเซเลนสกี ของยูเครน ได้เดินทางไปเยือนอังกฤษ ซึ่ง นายเคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยืนยันว่า สหราชอาณาจักรและชาติพันธมิตรในยุโรป ยังคงให้การสนับสนุนยูเครน นอกจากนี้ นางเรเชล รีฟส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอังกฤษ ยังเซ็นอนุมัติให้ยูเครนกู้เงิน จำนวน 2,260 ล้านปอนด์หรือกว่า 97,000 ล้านบาท ขณะที่ ประธานาธิบดีเซเลนสกี ยังมั่นใจว่า จะฟื้นความสัมพันธ์กับประธานาธิบดีทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ได้
ด้านชาวอเมริกันเสียงแตกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งออกมาประท้วงท่าทีของ ประธานาธิบดีทรัมป์ ที่รุนแรงเกินไป ส่วนฝ่ายที่เห็นด้วย มองว่า สหรัฐฯ ไม่จำเป็นต้องเสียงบประมาณจำนวนมาก เพื่อช่วยยูเครนหรือชาติอื่นใด
ขณะที่ เลขาธิการนาโต และผู้นำหลายชาติในยุโรป ย้ำว่า ยูเครนจะต้องเจรจากับสหรัฐฯ ให้สำเร็จต่อไป เพราะหากสหรัฐฯ ตัดความช่วยเหลือจะยิ่งเป็นผลเสียต่อยูเครนและเข้าทาง ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย มากขึ้น
