ปวดหัวบางชนิดอันตรายถึงตาย หมอประชาแนะเช็กลิสต์ 12 รายการ เจอข้อที่ใช่รีบไป รพ. ตรวจให้ละเอียด ป้องกันวินิจฉัยผิดพลาด-ล่าช้า เพราะหมอก็เป็นมนุษย์ เออเร่อได้
คนไข้มาด้วยอาการปวดหัว เป็นเรื่องที่ทำให้หมอปวดหัวได้มากที่สุดเรื่องหนึ่ง เรื่องราวที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งได้รับการเผยแพร่จากเพจหมอประชาผ่าตัดสมอง โดย นพ.ประชา กัญญาประสิทธิ์ แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมประสาท โรงเรียนเชียงใหม่รามประบริรักษ์ ได้เเชร์วิธีเช็กลิสต์อาการปวดหัวที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต 12 ข้อ พร้อมกำชับว่า หากเช็กลิสต์แล้วมีคำว่า “ใช่” ให้รีบไปโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์วินิจฉัยในทันที และมีความจำเป็นต้องตรวจร่างกายทางระบบประสาทอย่างละเอียด หากพบความผิดปกติ ต้องทำ ct scan หรือ MRI เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้อง
ปวดหัวบางชนิด อาจเกิดอันตรายถึงตาย หรือบางคนอาจพิการได้ เพื่อป้องกันการวินิจฉัยผิดพลาดหรือล่าช้า เพราะหมอก็เป็นมนุษย์ เออเร่อได้ จึงควรเช็กลิสต์ 12 ข้อ เช็กได้ด้วยตัวเอง ดังนี้
1. ปวดศีรษะทันทีทันใด แบบกระทันหัน (SUDDEN ONSET)
2. ปวดศีรษะมากที่สุดในชีวิต อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
3. ปวดครั้งแรกในผู้สูงอายุ และอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป
4. มีประวัติของผู้ป่วยมะเร็ง (Cancer) ผู้ป่วย HIV ภูมิแพ้ตนเอง (SLE) กำลังตั้งครรภ์ หรือเคยได้รับอุบัติเหตุบาดเจ็บที่ศีรษะมาก่อน
5. มีประวัติได้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Anticoagulants) หรือยาต้านเกล็ดเลือด ภาษาชาวบ้านคือยาละลายลิ่มเลือด (Antiplatelets) เพราะยากลุ่มนี้ทำให้เลือดไหลหยุดยาก เมื่อปวดหัวต้องแจ้งประวัติให้หมอทราบ
6. ปวดหัวพร้อมมีอาการอ่อนแรง ชา หรือพูดผิดปกติ ตามัว มองเห็นภาพซ้อน ชัก
7. ปวดศีรษะมากขึ้นเรื่อย ๆ (Subacute Progressive Headache) ภายใน 2-3 สัปดาห์
8. ปวดหัวร่วมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน ไข้ และปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อ ไอ จาม หรือเบ่ง
9. ปวดมากขึ้นเมื่อเปลี่ยนท่า (Positional Headache) เช่น นั่งแล้วปวด นอนแล้วหาย เป็นต้น
10. ได้รับการรักษา OPD มาแล้ว จากคลินิกหรือสถานพยาบาลอื่น หรือซื้อยามากินเองแล้ว เเต่ไม่หายหรือไม่ดีขึ้น
11. วัดความดันสูงเกิน 170 (Systolic BP > 170 mmHg) ระวังเส้นเลือดสมองแตก
12. ซึมลงหรือมีอาการสับสน GCS < 15 (Alteration of consciousness)
หมอประชา ได้ยกเคส ผู้ป่วยชายวัย 58 ปี มาด้วยอาการปวดหัว 1 เดือน ร่วมกับตามัว มีอาการขาดเลือดใต้เยื่อหุ้มสมอง หากให้คนไข้กลับบ้านอาจเสียชีวิตที่บ้าน เมื่อได้ทำเช็กลิตสต์ พบว่า ปวดหัวนาน 3 สัปดาห์ และชาขาขวานาน 3 เดือน มีอาการปวดออกเบ้าตา สรุป เคสนี้คนไข้เป็นเนื้องอก
สำหรับผู้ที่เช็กลิสต์แล้วมีอาการปวดหัวแบบไม่อันตราย หมอประชา แนะนำให้ออกกำลังกาย เนื่องจากการออกกำลังกายสามารถรักษาอาการปวดหัวแบบไม่อันตรายได้ ทั้งปวดหัวไมเกรน ปวดหัสจากความเครียด ออฟฟิศซินโดรม