“จตุพร” ชี้มติ กพค. สะท้อนอำนาจกำลังจะหลุดลอย

“จตุพร” ชี้มติ กพค. สะท้อนอำนาจกำลังจะหลุดลอย

View icon 166
วันที่ 7 มี.ค. 2568 | 10.12 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“จตุพร”  ชี้มติ กพค. สะท้อนอำนาจกำลังจะหลุดลอย  จากนี้ไปการขัดแย้งเชิงอำนาจยังไม่จบลง เพราะ สว.ตั้งป้อมต่อสู้เอาคืน

วันนี้ (7 มี.ค.68) นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน โพสต์ข้อความ ระบุ

“คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ของดีเอสไอ ประชุมเมื่อ 6 มี.ค.นั้น ไม่ได้พิจารณาคดีอั้งยี่ ซ่องโจร ฐานฮั้วเลือก สว.เป็นคดีพิเศษ แต่มีมติ 11 เสียงให้อธิบดีกรมดีเอสไอดำเนินการสอบสวนคดีฟอกเงินจากการได้มา สว. คงสะท้อนถึงไม่ดำเนินการตามอำนาจต้องการ เพราะสุ่มเสี่ยงกับชีวิตอนาคตของกรรมการ

อีกทั้งระบุว่า คดีฟอกเงินให้ได้มา สว. โดยทุจริตนั้น เป็นอำนาจโดยตรงของอธิบดีดีเอสไออยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นนำเรื่องเข้าที่ประชุม กคพ. ก็ได้ อย่างไรก็ตาม คดีฟอกเงินมีเงื่อนไขสำคัญต้องเข้าข่ายความเสียหายเกิน 300 ล้านขึ้นไป และต้องมีลักษณะความผิดตามลักษณะอั้งยี่ ซ่องโจรประกอบกับมีทุจริตเลือก สว.โดยการฟอกเงินด้วย ซึ่งต้องประสานหน้าที่กับอำนาจของ กกต. ด้วย

สิ่งสำคัญ เมื่อ กกต.มีหน้าที่ตรวจสอบทุจริตเลือก สว. ถ้าพบเข้าข่ายการฟอกเงินประกอบด้วย ย่อมนำเรื่องให้ดีเอสไอดำเนินการสอบสวนความผิดทางคดีอาญา ดังนั้น จุดเริ่มต้นคดีฟอกเงินยังเป็นหน้าที่ของ กกต. คงมอบหมาย ตกลง หรือให้ดีเอสไอดำเนินคดีอาญา เมื่อเป็นเช่นนี้ การประสานของ กกต.กับดีเอสไอจึงจำเป็นในการสอบสวนหาความผิดจากทุจริตเลือก สว.ที่เข้าข่ายการฟอกเงินด้วยหรือไม่

"การประชุม กคพ. โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยได้รับมอบหมายจากนายกฯ ให้นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน และตั้งใจจะดำเนินคดีอั้งยี่ ซ่องโจรเลือก สว. (ซึ่งต้องใช้เสียง 2 ใน 3 หรือจำนวน 15 เสียงจากทั้งหมด 22 เสียง) แต่ผลลัพธ์ไม่เป็นอย่างนั้น เพราะ กคพ.ไม่พิจาณาเรื่องนี้ ดังนั้น แสดงให้เห็นว่า อำนาจไม่มีอยู่จริงและกำลังจะหลุดลอย"

นายจตุพร กล่าวว่า การฮั้วเลือก สว. 67 เกิดจากกำหนดแบบไว้ใน รธน. 60 ให้ผู้สมัครกลุ่มอาชีพจ่ายเงิน 2,500 บาท ไปเลือกผู้สมัครคนอื่นในระดับอำเภอ แต่ห้ามหาเสียง ให้แนะนำตัวเองได้ 3 บรรทัด ไม่เพียงเท่านั้นเมื่อผ่านมาถึงการเลือกระดับจังหวัด แล้วไปสู่การนำกลุ่มอาชีพอื่นมาเลือกไขว้ในระดับประเทศ ดังนั้น โพยล็อก สว.ย่อมจำเป็นกับระบบที่ปวดหัวมึนงงเช่นนี้

"ระบบเลือก สว.เป็นการฝืนธรรมชาติมาตั้งแต่ต้น ถ้าเลือกตรงจะง่ายกว่ามาก ดังนั้น กติกาเลือก สว.เช่นนี้ ไม่ใช่ผู้มีคุณสมบัติเฉพาะตัวดี เด่น ดัง แล้วจะได้รับเลือก และถ้าคิดว่า ฮั้วเลือก สว.เป็นปัญหา ก็ต้องโมฆะกันทั้งหมด เพราะกติกามันเป็นปัญหา"

อีกทั้งกล่าวว่า แล้วยังจะลุกลามไปถึงการยื่นคำร้องให้ตรวจสอบนายกฯ ผิดจริยธรรมร้ายแรงกรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ ดังนั้น แสดงให้เห็นว่า อำนาจดีลเริ่มถดถอย ไฟที่เคยบอกว่าเขียว ก็เริ่มริบหรี่ลง

นอกจากนี้ ผลการการประชุม กคพ.เมื่อ 6 มี.ค. แสดงว่า การพบกันของระดับนำทางการเมืองระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับทักษิณ ชินวัตร ที่บ้านจันทร์ส่องหล้านั้น ยังตกลงอำนาจทับเส้นกันไม่ได้ เพราะไม่ได้เล่นงาน สว.ข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร และแม้ไม่โหวตมติ 15 เสียงเพื่อรับเป็นคดีพิเศษ แต่ให้ดำเนินการข้อหาฟอกเงิน ซึ่งเป็นอำนาจพิจารณาของอธิบดีดีเอสไอโดยตรงอยู่แล้ว

“ดังนั้น การประชุม กคพ. สะท้อนให้เห็นว่า กรรมการที่มาจากตำรวจไม่เข้าประชุมถึง 3 คน คงไม่เอาด้วยกับสิ่งที่รัฐบาลต้องการ และอำนาจไฟเขียว ซึ่งมักกล่าวอ้างกันนั้น กำลังเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ได้อยู่ในสถานะเดิมตามดีลกลับเข้าประเทศ”

ส่วนศาลอาญาไม่อนุญาตให้ทักษิณ ไปประเทศอินโดนีเซียนั้น นายจตุพร กล่าวว่า การตรวจสอบของแพทยสภาใกล้ยุติกันทุกขณะ โดยผลตรวจสอบจะนำไปสู่สถานการณ์แพทยภิวัฒน์ เป็นจุดชี้ขาดไปถึงกรณีชั้น 14 โดยตรง และยังจะเป็นต้นเรื่องการพิจารณาคำร้องทักษิณ ฝ่าฝืนคำพิพากษาลงโทษติดคุกของศาลฎีกาด้วย

ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ นั้น ประธานสภาฯ ยังไม่บรรจุระเบียบวาระประชุมสภาฯ ดังนั้น ขณะนี้ นายกฯ ยังมีอำนาจยุบสภาได้เหมือนเดิม แต่ถ้าบรรจุญัตติเป็นวาระประชุมสภาฯก็มีเพียงการตัดสินใจลาออกเท่านั้น สิ่งนี้เป็นข้อสังเกตน่าสนใจ แม้มีความเป็นไปได้ค่อนข้างน้อย แต่อาจเป็นทางเลือกที่ใครคาดไม่ถึงก็ได้

นายจตุพร กล่าวถึงร่างกฎหมายบ่อนกาสิโนและพนันออนไลน์ที่รอเข้าพิจารณาใน ครม. ว่า เป็นปัญหาการเมืองสุ่มเสี่ยงในวันข้างหน้าของพรรคร่วมรัฐบาลจะตัดสินใจร่วมก่อความเสียหายให้ชาติครั้งสำคัญหรือไม่ และยังถูกสาปแช่งจากประชาชน ดังนั้น ขอให้แต่ละพรรคการเมืองคิดกันดีๆ กับการประกาศศึกกับประชาชน และถ้าเข้า ครม. เชื่อผลลัพธ์จะไม่แตกต่างจากการประชุม กคพ.เช่นกัน

"ถ้า บ่อนกาสิโนเข้า ครม. ผมคนหนึ่งแสดงความชัดเจนว่า จะสู้สุดความสามารถและจะต้าน จะขัดขวางโดยไม่รู้ว่าประชาชนจะมาร่วมกันเท่าไร แต่หวังว่า เมื่อถึงวันนั้นประชาชนที่มีความรักชาติบ้านเมืองจะได้ออกมาต่อสู้ร่วมกัน"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง