วันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคลิปวิดีโอกล้องโทรศัพท์มือถือของคนที่อยู่ภายในรถยนต์กระบะสามารถบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ที่ ขณะคนขับรถเทรลเลอร์หัวร้อนขับรถปาดและตบรถคู่กรณี จนเกือบเสียหลักชนเกาะกลาง จากนั้นขับรถส่ายไปสายมาเหมือนต้องการจะหาเรื่อง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบนถนนสายนครหลวง-ภาชี ตำบลนครหลวง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บริเวณสี่แยกสัญญาณไฟจราจรโคกมะลิ
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ นางสาวพรรณิภา แซ่คู อายุ 46 ปี เจ้าหน้าที่เทศบาลนครหลวง ซึ่งยังอยู่ในอาการขวัญผวา พาไปดูร่องรอยความเสียหาย ของรถยนต์กระบะ สีขาว ทะเบียน บห 5967 พระนครศรีอยุธยา ที่ถูกรถบรรทุกเทรลเลอร์ปาดตบเข้าบริเวณบังโคลนหน้าฝั่งซ้าย มีร่องรอยบุบ พร้อมเล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดช่วงเวลา 12.10 น. ของวันนี้ ขณะตนเองและเพื่อนเจ้าหน้าที่เทศบาลรวม 4 คน ซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งหมด พากันขับรถเพื่อจะไปกินข้าว โดยใช้เส้นทางสายนครหลวงมุ่งหน้า-ภาชี ซึ่งตนเองจอดอยู่ในเลนขวาสุด และเป็นช่วงติดสัญญาณไฟจราจร
กระทั่งเป็นสัญญาณไฟเขียว รถบรรทุกเทรลเลอร์คันที่ก่อเหตุได้จอดอยู่ด้านหลังของตน จากนั้นก็มีการบีบสัญญาณแตรประมาณ 3 ครั้ง ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ตกใจว่าบีบแตรทำไม เพราะเพิ่งจะเริ่มเป็นสัญญาณไฟเขียว รถด้านหน้าเพิ่งเริ่มขยับ และก็มีรถบรรทุกเทรลเลอร์อยู่ด้านหน้าอีกคัน จากนั้นตนก็ขับรถตรงไปมุ่งหน้าภาชี แต่จู่ ๆ คนขับรถเทรลเลอร์คันคันก่อเหตุได้แซงซ้าย จากนั้นพยายาม ปาด เบียด รถของตนเอง พี่คนที่ที่อยู่ในรถจึงพยายามนำโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิปวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน และเป็นจังหวะที่รถคันที่ก่อเหตุขับปาดและเบียดเลนเข้ามาที่เลนขวา โดยใช้ท้ายรถเทรลเลอร์มาฟาดเข้ากับด้านบังโคลนหน้าฝั่งซ้ายของรถตน จนรถเกือบเสียหลักชนเกาะกลาง ซึ่งขณะนั้นคนในรถและตนก็ขวัญเสียและขวัญผวา รู้สึกไม่ปลอดภัย ก่อนพยายามตั้งสติและขับไปเรื่อย ๆ แต่ก็สังเกตว่าคนขับรถบรรทุกเทรลเลอร์คันดังกล่าวก็พยายามจะขับปาดซ้ายปาดขวา เพื่อไม่ให้ตนเองขับแซงขึ้นไปข้างหน้า ตนจึงชะลอรถและให้รถบรรทุกเทรลเลอร์ขับแซงไป
นางสาวพรรณิภา บอกอีกว่า ตอนนั้นตนยังไม่รู้ว่ารถของตนเองได้รับความเสียหาย กระทั่งจอดและลงดู ก็พบว่ารถของตนเองถูกขับปาดจนเสียหาย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวคนขับรถเทรลเลอร์ถือเป็นภัยสังคม และก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนน จึงเดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.นครหลวง เพื่อให้ติตตามตัว คนขับมาดำเนินคดีตามกฎ และรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น
