พ.ต.อ. ทวี รับแถลงสับสนปมการตาย อดีต ผกก.โจ้

View icon 185
วันที่ 11 มี.ค. 2568 | 06.09 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - คดีอดีตผู้กำกับโจ้ วนกลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง เพราะทั้งผลผ่าชันสูตรรอบ 2 ก็ยังไม่ออก เพราะต้องใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ ถึงจะรู้ แต่ที่สร้างเสียงฮือฮา ก็เมื่อ พันตำรวจเอก ทวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงปมการสมัครใจขอขังเดี่ยว แต่พอฟังไปฟังมา ก็ยิ่งงงสับสน โดยเฉพาะปมรอยเลือดที่ก่อนหน้านี้ญาติก็ติดใจ

"พ.ต.อ. ทวี" รับแถลงสับสน ปมการตาย "อดีต ผกก.โจ้"
ก็เป็นคำชี้แจงของ รัฐมนตรี ทวี ที่พยายามตอบสื่อเกี่ยวกับปม อดีตผู้กำกับโจ้ สมัครใจขอขังเดี่ยว เพราะกลัวถูกบุคคลอื่นทำร้าย ว่าห้องดังกล่าวไม่ใช่ห้องขังเดี่ยว แต่เป็นห้องนอน ที่โดยปกติจะรองรับผู้ต้องขังได้ 4-5 คน แต่ผู้กำกับโจ้นอนคนเดียว

แต่ก็ต้องร้องห๊ะ เมื่อมีการระบุว่า วันนั้นคนห้องข้าง ๆ ห้องขังของอดีตผู้กำกับโจ้ เป็นผู้ต้องขังหญิงคนหนึ่ง ที่มานอนตรงนี้ และทราบว่าเป็นช่วงมีประจำเดือนมา จึงขอแยกนอนห้องข้าง ๆ ที่อดีตผู้กำกับโจ้นอน

จนสื่อร้องทัก ถามเพิ่มอีกทันที เป็นแดนผู้ต้องขังชาย จะมีผู้หญิงได้อย่างไร จนทำให้ ท่านทวี ก็ถึงกับตอบอีกครั้งว่า "อ๋อ ๆ ใช่ ผู้ต้องขังคนดังกล่าวเป็น LGBTQ+ ซึ่งสื่อฟังแล้วก็จี้ถามต่อเป็นสาวข้ามเพศ แต่ก็ไม่สามารถมีประจำเดือนได้

จน รัฐมนตรีทวี ก็ตะกุกตะกัก ก่อนไปบอกว่า สาเหตุที่เข้าไปห้องขังช้า เพราะกุญแจถูกเก็บไว้อีกที่ แต่เมื่อคำชี้แจงมาแบบนี้ ชาวโซเชียลก็วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา

ซึ่งถ้าเราจำกันได้ ปมรอยเลือดบนพื้น ก็เป็นหนึ่งในเงื่อนงำที่ครอบครัวและแฟนสาวติดใจ ในวันที่เข้าไปภายในเห็นสภาพศพ และภายในห้องขัง ที่เห็นคราบเลือดที่พื้น แต่ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร

น้องสาว ยื่นหนังสือถึง รมว.ยุติธรรม
ทีนี้ดูมุมคดีเพิ่มอีก น้องสาวอดีตผู้กำกับโจ้ ก็หอบความคาใจเป็นหนังสือ ไปยื่นร้องขอความเป็นธรรมกับ รัฐมนตรีทวี ด้วย โดยเฉพาะความต้องการให้ ย้ายผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม และหัวหน้าแดน 7 คู่กรณีของพี่ชาย ออกจากพื้นที่ เพราะกังวลอาจมีการแทรกแซงคดีนี้เกิดขึ้น

สั่งย้าย "ผู้คุม" คู่กรณี "อดีต ผกก.โจ้"
ซึ่งก็มีรายงานออกมาแทบจะทันทีว่า ผบ.เรือนจำคลองเปรม ก็สั่งให้ นายสิทธิพร ผู้คุมเรือนจำแดน 7 คู่กรณี ย้ายไปประจำที่ส่วนบริหารทั่วไปแทน

ซึ่ง โฆษกกรมราชทัณฑ์ อธิบายปมย้าย นายสิทธิพร เป็นขั้นตอนตามปกติ เพื่อเปิดทางให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เข้าไปตรวจสอบพยานหลักฐาน โดยไม่มีข้อกังขาว่าจะไม่โปร่งใส

ส่วนเหตุที่ เรือนจำกลางคลองเปรม ไม่อนุญาตให้ตำรวจเข้าไปสอบปากคำ ผู้ที่อยู่ในเรือนจำได้ทันที เพราะเป็นเรื่องของกฎกระทรวงฯ ประกอบกับเป็นช่วงผลัดเปลี่ยนตำแหน่งพอดี จึงเกิดความไม่ต่อเนื่องในการพิจารณา

จ่อสอบผู้คุมในเรือนจำ
ขณะที่ ผู้กำกับการ สน.ประชาชื่น เผยว่า ได้ทำหนังสือถึง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อขอส่งตำรวจเข้าไปสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง 5-6 คน

ซึ่งเป็นผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือ และผู้ต้องขังที่อยู่ห้องรอบข้างห้องขัง "อดีตผู้กำกับโจ้" เพื่อคลี่คลายประเด็นนี้ แต่ยังไม่ถึงขั้นออกหมายเรียกใครมาแจ้งข้อหา "ทำร้ายร่างกาย"

หากถามตอนนี้ ยังมีประเด็นอะไรที่ครอบครัวยังคาใจ ถามเพิ่มกับ นายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความ ก็ไม่ยืนยันผลผ่าชันสูตรศพ มีอะไรคาใจไหม แต่ตอบเลี่ยง ๆ ว่า ขอให้ผลตรวจออกมาก่อนดีกว่า

ยกเว้นที่ปฏิเสธเลย ก็กระแสข่าวว่า "อดีตผู้กำกับโจ้" เคยพยายามทำร้ายตัวเอง และเรื่องป่วยทางจิตเวช ตามที่กรมราชทัณฑ์ ชี้แจงออกมาก่อนหน้านี้

ครอบครัวเศร้า รับร่าง "อดีต ผกก.โจ้"
ทีนี้ไปดูการเตรียมพิธีศพ ครอบครัว และทนาย ก็ไปรับร่างอดีตผู้กำกับโจ้ ไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่ศาลาจีรวัสส์ รัชนิบูล วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน หลังดำเนินการผ่าชันสูตรศพรอบ 2 ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ บรรยากาศก็อยู่ในความโศกเศร้า

เป็นพิธีเคลื่อนย้ายร่าง อดีตผู้กำกับโจ้ กระทั่งไปถึงวัดฯ ราว ๆ 15.40 น. ซึ่งในการประกอบพิธีในคืนแรก ก็มีญาติสนิทร่วมกันเป็นเจ้าภาพ มีอดีตผู้ที่เคยร่วมงาน, ผู้บังคับบัญชา, เพื่อนร่วมรุ่น ไปร่วมงานกันอย่างเนืองแน่น

โดยครอบครัวปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องทางคดี เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมรุ่นที่ปฏิเสธ แต่ให้ข้อมูลว่า เรื่องการเสียชีวิตของ "อดีตผู้กำกับโจ้" น่าจะเกิดจากแรงกดดันอะไรบางอย่าง

ด้าน อดีตผู้บังคับบัญชา เชื่อ "อดีตผู้กำกับโจ้" ไม่มีนิสัยเกเร เรื่องที่ถูกกดดันจนตัวเองตัดสินใจจบชีวิต ตนก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่เคยติดคุก แต่เชื่อว่าข้างในนั้นไม่ได้สบาย คงบอกได้แต่ว่าเรื่องนี้กระทรวงยุติธรรมปล่อยผ่านไม่ได้