ลุงวัย 60 ปี เพิ่งสึกพระออกมาได้ 3 วัน เกิดวูบเสียชีวิต ขณะตัดต้นไม้ท่ามกลางอากาศร้อนจัด คาดเกิด “ฮีตสโตรก” ทำให้เสียชีวิต
วันนี้ (11 มี.ค. 68) ร.ต.อ.ไชยเชษฐ์ ดวงรัตน์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตในพื้นที่ ม.4 ต.ท้ายหาด อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมอาสากู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม
ณ ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่เปล่าอยู่กลางแดดร้อนเปรี้ยงพบร่างของ นายเสกสรรค์ อายุ 60 ปี สภาพนอนหงายใกล้กันพบมีดตะขอสำหรับตัดต้นไม้ตกอยู่ และพบ นายเอกชัย อายุ 45 ปี เพื่อนบ้านที่มาช่วยตัดต้นไม้ ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่
ทาง นายเอกชัย เล่าว่า ผู้ตายจ้างให้ตนมาตัดต้นไม้เพื่อเตรียมเดินสายไฟเข้าบ้านที่เพิ่งสร้างเสร็จ โดยเริ่มตั้งแต่ 09.00 น. ท่ามกลางแดดที่ร้อนจัด ขณะที่ผู้ตายตัดไม้อยู่ในร่องสวนไม่นานก็ขึ้นมานั่งจู่ ๆ ก็หงายท้องหมดสติ ตนจึงเรียกเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท้ายบ้าน มาทำการ CPR ยื้อชีวิต แต่เมื่อผ่านไปประมาณ 30 นาที ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตได้
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายเคยบวชอยู่วัดท้ายหาดมานาน 2 ปี ทางลูกของผู้ตายที่อยู่ประเทศสิงคโปร์ จะคอยส่งเงินมาให้สร้างบ้านจนเสร็จ กระทั่งเมื่อ 3 วันก่อน ผู้ตายได้สึกออกมา เพื่อจะมาปรับพื้นที่เดินสายไฟฟ้าเข้าบ้านใหม่ ก่อนเกิดเหตุผู้ตายตัดต้นไม้ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด จึงทำให้เกิดอากาศวูบเสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ได้นำศพมาชันสูตรเบื้องต้นที่โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายมีโรคประจำตัวคือความดันโลหิตสูง ประกอบกับอากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำให้ผู้ตายซึ่งอายุ 60 ปี ร่างกายรับไม่ไหวจึงเกิดอาการฮีตสโตรก หรือเส้นเลือดในสมองแตก หรือหัวใจวาย ทำให้เสียชีวิต ซึ่งญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงมอบศพให้ญาติไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ทาง นพ.นราพงศ์ ธีรธีอัครวิภาส นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงคราม ฝากเตือนว่า ในช่วงอากาศร้อน ผู้สูงอายุ เด็ก หรือแม้แต่ผู้ที่ร่างกายแข็งแรง ต้องระวังอากาศร้อนที่กระตุ้นโรคประจำตัว ทำให้มีโอกาสเป็นลมหน้ามืด, ฮีตสโตรกหรือ หรือเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้เสียชีวิตได้ จึงแนะนำขอให้ระมัดระวังในการทำงานกลางแดดนาน