”ไอซ์ รักชนก“ ลงพื้นที่ติดตามเหตุสะพานยกระดับย่านพระราม 2 ถล่ม จี้ คมนาคมถอดบทเรียนจริงจัง หวั่นเกิดขึ้นซ้ำซาก
วันนี้ (15 มี.ค. 68) เวลา 13:00 น. ที่บริเวณหน้าด่านดาวคะนอง พื้นที่โครงการการก่อสร้างโครงการทางพิเศษ สายพระราม3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอก ถล่มเป็นทางยาวซอย 17-25 นางสาวรักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคประชาชน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุโครงการก่อสร้างสะพานยกระดับทางพิเศษสายพระราม 3 -ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ที่ถล่มทับคนงานจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
นางสาวรักชนก กล่าวว่า ถนนพระรามที่ 2 เป็นตำนานหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องอุบัติเหตุ และเหตุการณ์คล้ายกันแบบนี้เพิ่งเกิดขึ้นไปเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่คล้ายกันและมีผู้เสียชีวิต โดยเป็นสิ่งที่น่าผิดหวังมากเพราะด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้รับปากไว้ว่า จะสืบสวนในเรื่องนี้และจะดำเนินการต่าง ๆ ภายใน 30 วัน แต่หลังจาก 30 วัน คณะกรรมาธิการที่ติดตามงบประมาณฯ ได้มาลงพื้นที่เพื่อทวงถามรายงานสาเหตุเกิดจากอะไรไปถึงไหนแล้ว แต่กลับได้รับคำตอบว่า ขอเวลาเพิ่มอีก กลายเป็นว่าในสิ้นเดือน ก.พ. 68 จะมีการส่งรายงานให้ เท่ากับว่าจะมีการขยายเวลาจากหนึ่งเดือนเป็นสามเดือน แต่ปัจจุบันเข้าสู่กลางเดือน มี.ค. 68 แล้ว แต่ยังไม่เสร็จรวมทั้งได้มีการเกิดเหตุการณ์ใหม่เกิดขึ้นอีก
”มองว่าเรื่องที่เรายังไม่มีการถอดบทเรียนจากเหตุการณ์เก่าและยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลยแต่กลับกลายเป็นเกิดเหตุการณ์ใหม่อีก ได้รับคำรับรองจากข้าราชการว่าจะทำการสืบสวนในกรณีนี้ภายใน 15 วัน และก็ไม่อยากเชื่อว่าจะเสร็จภายใน 15 วันตามกำหนดเพราะเรื่องเก่ายังไม่เสร็จเลย”
นางสาวรักชนก ยืนยันว่า ตนเองสนับสนุนมาตรการแบล็คลิสต์ แต่มองว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการป้องกันตั้งแต่ต้นเหตุ ถึงแม้ว่าจะโดนลดชั้นหรือปรับชั้น เขาก็สามารถใช้นอมินีหรืออย่างอื่นให้กลับไปอยู่ในระดับสูงได้แบบเดิม ซึ่งการที่จะแก้ไขปัญหาได้จริง ๆ พรรคประชาชนได้มีการเสนอให้สืบสวนสอบสวนอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้นในเชิงวิศวกรรม ซึ่งทุกวันนี้ในการที่สืบสวนสอบสวนสาเหตุ เราทำในเชิงของตำรวจ และค่อยมาดำเนินการ แต่ในทางวิศวกรรมมันมีความสำคัญที่เราควรเชิญผู้เชี่ยวชาญเข้ามาถอดบทเรียนศึกษา และเอากรณีศึกษาเหล่านี้ไปป้องกันในเคสถัดไป
ทั้งนี้ พ.ร.บ.ถนนฯ ได้ถูกปัดตกไปเพราะนายกรัฐมนตรี บอกว่าเป็นในเรื่องของร่างการเงินจึงไม่ได้มีการพิจารณาอะไรทั้งสิ้น ซึ่งสิ่งนี้จริง ๆ แล้วมันสำคัญในการสืบสวนสอบสวนเชิงวิศวกรรม เพราะว่าถ้าเราไม่ได้มีการมาคุยเรื่องโครงสร้างรากฐานว่ามันเกิดจากอะไรแล้วเราเอาไปออกกฏหมายเพื่ออุดช่องโหว่เหล่านี้ไม่ให้เกิดในเคสถัดไป เดี๋ยวมันก็เกิดขึ้นอีก เพราะการสร้างถนนมันไม่ได้มีแค่ถนนพระรามสอง แต่มันสร้างทั่วประเทศ ถ้าเรามองแค่เคสนี้แล้วเราไม่ถอดบทเรียนเพื่อไปใช้กับเคสอื่นเลย เดี๋ยวมันก็เกิดขึ้นอีก