ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 68 ที่ผ่านมา น.ส.เปียง แรงงานชาวกัมพูชา เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.กมลรัตน์ พาน้อย รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บางบัวทอง เนื่องจากเกิดปัญหาถูกรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 มี.ค. 68 จำนวน 2 ใบ เป็นเงินรางวัล 12 ล้านบาท แต่ถูกเพื่อนที่เจ้าตัวฝากซื้อนำสลากฯที่ถูกรางวัลไปลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน สน.บางนา
น.ส.เปียง เปิดเผยว่า หลังตนได้โอนเงินฝากไปให้ น.ส.นี เพื่อนชาวกัมพูชาด้วยกัน ซึ่งอาศัยอยู่ย่านคลองสาม รังสิต โดยตนฝากซื้อสลากฯเป็นเงิน 400 บาท ส่วนอีก 600 บาทเป็นเงินที่ให้ยืม หลังจากนั้น น.ส.นี ได้ส่งรูปสลากฯที่ตนฝากซื้อมาให้ทางข้อความในเฟซบุ๊ก ต่อมาหลังจากผลการออกรางวัล ตนคิดว่าไม่ถูกรางวัลเลข 2 ท้ายตัว จึงไม่ได้ใส่ใจสลากฯที่ น.ส.นี ส่งมาให้ดู จนกระทั่งเช้าวันนี้จึงเปิดดูรูปสลากที่ฝาก น.ส.นี ซื้ออีกครั้ง จึงพบว่าสลากดังกล่าวถูกรางวัลที่ 1 เลข 757563 จำนวน 2 ใบ จึงได้รีบติดต่อกับไปหา น.ส.นี แต่ปรากฎว่าไม่สามารถติดต่อได้ และยังถูกบล็อกเฟซบุ๊กอีกด้วย
จากนั้นทราบข่าวว่า น.ส.นี ได้นำสลากที่ถูกรางวัลที่ 1 ไปลงบันทึกเป็นหลักฐานไว้ที่ สน.บางนา ด้วยความเสียดายเงินรางวัล 12 ล้านบาท ประกอบกับยังไม่มีหลักฐานมากพอ นอกจากรูปถ่ายสลากที่ถูกรางวัลที่ 1 ที่ตนฝากซื้อเพียงรูปเดียว จึงได้ตัดสินใจเข้าปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอความช่วยเหลือ
เบื้องต้น พ.ต.ท.กมลรัตน์ ได้แนะนำให้ทาง น.ส.เปียง กลับไปทบทวนและรวบรวมพยานหลักฐานการโอนเงินไปฝากซื้อสลากฯ รวมทั้งข้อความบทสนทนาเกี่ยวกับการฝากซื้อสลากฯมาให้พร้อม และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง พร้อมรับแจ้งความตรวจสอบเรื่องสลากฯ รางวัลที่ 1 เจ้าปัญหาดังกล่าว ถ้าหากเป็นเรื่องจริง แต่หากเป็นเรื่องโกหกที่กุขึ้นมาแล้วมาแจ้งความ ก็จะถูกดำเนินคดีอาญาฐานแจ้งความเท็จกับพนักงานสอบสวน ทำให้ น.ส.เปียง ขอตัวกลับไปเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนจะตัดสินใจว่าจะเดินทางมาเข้าแจ้งความเพื่อขออายัดสลากฯที่ถูกรางวัลต่อไปหรือไม่ โดยยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว
ด้านเพื่อนร่วมงานของ น.ส.เปียง บอกว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมา น.ส.เปียง ได้นำรูปภาพสลากฯที่ถูกรางวัลที่ 1 มาให้ตนดูด้วยความตื่นเต้นดีใจ หลังทราบว่าสลากฯที่ถูกรางวัลที่ 1 เป็นสลากที่ น.ส.เปียง ได้ฝากเพื่อนร่วมชาติซื้อไว้ แต่ปรากฎว่าเมื่อทราบว่าสลากฯถูกรางวัลที่ 1 แล้ว กลับติดต่อเพื่อนคนที่ฝากซื้อไม่ได้ และยังถูกเพื่อนคนดังกล่าวบล็อกเฟซบุ๊กไป จนต่อมา น.ส.เปียง ทราบข่าวมาว่า เพื่อนแรงงานคนดังกล่าวได้นำสลากฯ ที่ถูกรางวัลที่ 1 ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.บางนา ว่าเขาเป็นคนถูกรางวัลที่ 1 เอง
ทำให้ น.ส.เปียง ซึ่งเป็นคนจ่ายเงินฝากสลากฯ ต้องการสลากฯคืน จึงตัดสินใจเดินทางมาปรึกษาข้อกฎหมายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทาง น.ส.เปียงเอง ก็เกิดความวิตกกังวลตามมาว่า เขาเป็นคนต่างด้าวไม่มีความรู้เรื่องกฎหมาย จึงไม่รู้วิธีการต่อสู้คดีเพื่อทวงสลากดังกล่าวกลับคืนมา โดยส่วนตัวแล้วตนเชื่อว่า น.ส.เปียง เป็นเจ้าของสลากตัวจริง เพราะเห็นสลิปโอนเงินไปให้เพื่อนร่วมชาติคนดังกล่าวด้วย จึงเชื่อว่า น.ส.เปียงไม่ได้กุเรื่องดังกล่าวขึ้นมา แต่เพราะไว้ใจเพื่อนมากไป จึงถูกเพื่อนโกงสลากฯ ที่ถูกรางวัลไป
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า น.ส.เปียง และ น.ส.นี ได้ตกลงไกล่เกลี่ยแบ่งสลากฯ คนละครึ่ง โดยมีหัวหน้างานเป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยดังกล่าว