ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายขี่รถ จยย.ตามประกบหญิงสาวใช้ปืนจี้หัว พยายามถีบให้รถล้ม มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อ 3 คน
วันนี้ (18 มี.ค.68) ที่จังหวัดอุทัยธานี ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนดักจี้ชิงทรัพย์ โดยมีเป้าหมายเป็นหญิงสาวที่ขี่รถจักรยานยนต์สัญจรผ่านจุดเปลี่ยวในพื้นที่อำเภอห้วยคต โดยลงมือก่อเหตุไปแล้วถึง 3 ราย ในอำเภอเดียวกัน ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือน ซึ่งจุดที่น่าสังเกตของการก่อเหตุจี้ของชายรายนี้คือ การก่อเหตุจี้ทั้ง 3 ครั้ง คนร้ายไม่ได้เรียกข่มขู่เอาทรัพย์สิน ซึ่งผู้เสียหายบางรายให้ทั้งเงินและโทรศัพท์กับคนร้ายไป แต่ทางคนร้ายรายนี้กลับไม่สนใจ ซ้ำยังคืนทรัพย์สินให้กับหญิงผู้เสียหายด้วยซ้ำ จึงทำให้คาดการณ์ว่า คนร้ายรายนี้น่าใช้ปืนจี้หญิงสาวเพื่อหวังประสงค์ที่จะข่มขืนหรือไม่
โดยไทม์ไลน์คดีนี้ รายแรกเกิดขึ้นเมื่อประมาณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 กับหญิงสาวอายุ 34 ปี เป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ เหตุเกิดขึ้นที่บริเวณถนนเส้นบ้านป่าบัว หมู่ที่ 6 ตำบลทองหลาง ในช่วงเวลาประมาณ 5 หญิง คนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์ประชิดตัว ก่อนกระชากที่แขนผู้เสียหายขณะที่ขี่รถจักรยานยนต์อยู่ถึง 2 ครั้ง ก่อนถีบเข้ามาที่รถซ้ำอีกครั้ง เพื่อหวังว่าจะให้รถจักรยานยนต์ล้ม แต่หญิงสาวสติดีประคองตัวรถเอาไว้ได้ และรีบขี่รถจักรยานยนต์หนีไปได้
ส่วนรายที่ 2 เป็นหญิงสาวอายุ 34 ปี เป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อเช่นกัน โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 ที่บริเวณถนนเส้นนาไทย หมู่ 2 ตำบลสุขฤทัย กล้องวงจรปิดจับภาพได้ในช่วงเวลา 23.08 น. คนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหญิงสาวผู้เสียหาย ซึ่งกำลังยืนซื้อลูกชิ้นอยู่ริมถนนหลังจากที่เลิกงาน จากนั้นหญิงสาวขี่รถจักรยานยนต์ออกจากร้านขายลูกชิ้น คนร้ายก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามไปในทันที
และรายที่ 3 คือวันที่ 16 มีนาคม โดยเหตุเกิดขึ้นที่บริเวณริมถนนสายสมอทอง-ตลาดใหม่ หมู่ที่ 4 บ้านกลาง ตำบลทองหลาง ซึ่งผู้เสียหายเป็นหญิงอายุเพียง 15 ปี ถูกคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ประกบข้างก่อนถีบรถจักรยานยนต์จนคว่ำ ขณะขี่รถกลับบ้านตอนเวลา 22.06 น. กล้องวงจรปิดบนถนน ได้จับภาพช่วงที่รถจักรยานยนต์ของหญิง อายุ 15 ปี ขับผ่านมา แล้วพบว่ารถจักรยานยนต์ของคนร้ายดับไฟหน้ารถขับตามมาในเวลาไล่เลี่ยกัน ก่อนขี่รถประกบข้างและถีบรถจักรยานยนต์จนล้ม ก่อนเข้าชกต่อยทำร้ายร่างกาย และใช้อาวุธปืนจี้ศีรษะเพื่อบังคับให้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปด้วยกัน ก่อนที่ทางผู้เสียหายจะฮึดสู้สุดกำลังจนหนีเอาชีวิตรอดมาได้ จึงทำให้คาดการณ์ว่า ครั้งนี้คนร้ายน่าจะหวังประสงค์ต่อร่างกายของน้อง ซึ่งผู้เสียหายทั้ง 3 ราย ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ห้วยคตแล้ว โดยตอนนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
โดยล่าสุดความคืบหน้าคดีวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี ได้นำทีมลงมาช่วยชุดสืบสวน สภ.ห้วยคต เพื่อเร่งไล่ล่าตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยได้มีการเชิญตัวนักเรียนหญิง อายุ 15 ปี และครอบครัว เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมพร้อมด้วยทีมเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของ รวมทั้งยังมีนายคำสิงห์ ภูเยี่ยมจิต รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุทัยธานี ชัยนาท นางสาวอาภา ซังซั่ว นักจิตวิทยา โรงเรียนประจำสำนักงานเขตฯ และครูที่ปรึกษาประจำชั้นของนักเรียน เดินทางเข้ามาช่วยประเมินอาการและเยียวยาสภาพจิตใจของน้องนักเรียนหญิงรายนี้ ซึ่งพบว่ายังอยู่ในอาการหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ส่วนด้านการดำเนินคดีนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไล่เก็บภาพกล้องวงจรปิดในทุกเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะสัญจรผ่านไปมาตั้งแต่ช่วงที่ก่อเหตุกับหญิงสาวรายแรกยาวมาจนถึงนักเรียนหญิงอายุ 15 ปี โดยสามารถยืนยันได้แล้วว่า คนร้ายที่ก่อเหตุกับหญิงทั้ง 3 รายนั้น เป็นชายคนเดียวกันอย่างแน่นอน โดยคนร้ายรายนี้เป็นชายมีลักษณะผอมสูง ประมาณ 170 เซนติเมตร ใช้ผ้าสีดำโพกคลุมศีรษะ มีผ้าสีแดงอยู่ด้านในอีกชั้น สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว รถที่ใช้ในการก่อเหตุเป็นรถจักรยานยนต์ 2 คัน คือ ฮอนด้าเวฟ และ ฮอนด้า MSX ส่วนอาวุธปืนนั้นยังไม่ทราบว่าเป็นชนิดใด โดยภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถจับได้ในช่วงที่คนร้ายลงมือก่อเหตุครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 จะเห็นได้ว่าพฤติการของคนร้ายนั้นน่าจะล็อกเป้าหมายก่อนลงมือก่อเหตุ ขี่รถตามและเลือกรอจังหวะก่อเหตุในช่วงบริเวณที่เป็นจุดทางเปลี่ยวที่ไม่มีไฟฟ้าและไม่มีบ้านคน
โดยนางสาวตั๊ก อายุ 34 ปี หญิงสาวผู้เสียหายรายที่ 2 ได้เล่าเหตุการณ์วันเกิดให้ฟังว่า วันเกิดเหตุตนเองขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านหลังเลิกงาน จนมาถึงบริเวณป่าอ้อย คนร้ายได้กระชากเข้ามาที่แขนตนเองอย่างแรง ซึ่งตนเองไม่ทันระวังตัวจึงทำให้รถเสียหลักลงข้างทาง จากนั้นตนเองก็วิ่งหนีเข้าไปในป่าอ้อย ซึ่งคนร้ายก็วิ่งตามเข้าไป โดยตนเองพยายามวิ่งกลับขึ้นมาบนถนน ซึ่งตอนนั้นตกใจและกลัวมาก นั่งก้มลงกราบเท้าคนร้ายที่กำลังเอาปืนจี้หัวตนเองอยู่ โดยบอกกับตนเองว่า ให้หยุด กูบอกให้มึงหยุด ตนเองก็ได้บอกว่า อยากได้อะไรเอาไปเลย อย่าทำอะไรหนูเลย ถ้าหนูตายลูกหนูจะอยู่ยังไง ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ได้วางเงิน 200 บาท พร้อมโทรศัพท์มือถือให้คนร้าย โดยตอนแรกคนร้ายหยิบมือถือแล้วเดินออกไป แต่จู่ๆก็เดินกลับแล้วเอาโทรศัพท์มาคืนให้กับตน ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกไป