เจ้าหน้าที่ ขสป.ห้วยขาแข้ง จับกุมชายกัมพูชา 1 คน ลักลอบตัด “ไม้กฤษณา” ในเขตป่าอนุรักษ์ ติดตามร่องรอยนาน 3 วัน เจ้าตัวเผยรับจ้างตัดได้ค่าจ้างสูงถึง 5,000 บาท ต่อ ไม้กฤษณา 1 กก.
วันนี้ (20 มี.ค. 68) นายไชยา แดนโพธิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) เผยว่า นายเพิ่มศักดิ์ กนิษฐชาต หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง รายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยน้ำตื้น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จับกุม ชายกัมพูชา อายุ 54 ปี อาศัยอยู่ที่จังหวัดกำปงธม ประเทศกัมพูชา หลังพบร่องรอยการถากฟัน “ไม้กฤษณา” ในบริเวณป่ากฤษณายอดห้วยทับเสลา ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เมื่อวานนี้ (19 มี.ค. 68)
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ลาดตระเวนตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2568 และพักค้างแรมจนกระทั่งเวลาประมาณ 10.00 น. วานนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้พบร่องรอยการถากฟัน “ไม้กฤษณา” จึงแจ้ง นายมนตรี พูลเพิ่มผล ผู้ช่วยหัวหน้า ขสป.ห้วยขาแข้ง และนายมนตรีได้แจ้ง นายเพิ่มศักดิ์ ซึ่งได้มอบหมายให้ชุดลาดตระเวนติดตามร่องรอยหาผู้กระทำผิด จากการตรวจสอบจนพบผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวมายังสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เพื่อทำการซักถามโดยมีเจ้าหน้าที่จากศูนย์ข่าวกรองอาชญากรรมสัตว์ป่าร่วมซักถามด้วย และประสานงานกับ น.ส.ชฎาพร สุพงษ์ นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ ผู้ช่วยหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันออก ทำหน้าที่เป็นล่ามในการจัดทำบันทึกตรวจยึด-จับกุม
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาเข้ามาประเทศไทยผ่านด่านอรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 และเดินทางไป จ.ตราด เพื่อรับจ้างตัด “ไม้กฤษณา” โดยมีพวกอีก 2 คน ซึ่งเป็นชาวกัมพูชาเช่นกัน ได้ค่าจ้างสูงถึง 5,000 บาท/ไม้กฤษณา 1 กิโลกรัม เมื่อถึงเวลานัดหมายมีคนไทยขับรถกระบะสีขาวมารับตนและพวกรวม 3 คน เดินทางมาแนวชายป่าในช่วงเวลากลางคืน ประมาณวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 โดยพวกตนมีเสบียงอาหารติดตัวมาคนละประมาณ 20-25 กิโลกรัม หลังจากนั้นมีคนไทยอีกคนมารับช่วงต่อและพาเข้าป่า โดยคนไทยคนนี้อยู่กับพวกตนประมาณ 10 วัน แล้วจึงออกจากป่าไป จากนั้นผู้ต้องหาและพวกได้แยกกันสำรวจหา “ไม้กฤษณา” หากพบร่องรอยที่มีการฟันไม้ทิ้งไว้ก่อนแล้ว จะย้อนกลับมาสักชิ้นไม้กฤษณา ซึ่งตนเคยรับจ้างหาไม้กฤษณาที่มาเลเซีย และเข้ามารับจ้างในไทยอยู่บ่อยครั้ง
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.ลานสัก และแจ้งข้อหาการกระทำผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้จัดชุดลาดตระเวน 3 ชุด ตรวจสอบพื้นที่บริเวณใกล้เคียงจุดที่พบการกระทำผิด ประสานงานอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ร่วมปฏิบัติงานดักซุ่มในบริเวณที่คาดว่าเป็นเส้นทางเข้า-ออกในพื้นที่รับผิดชอบ ทำการข่าวบริเวณพื้นที่ชายขอบกับชุมชน รวมถึงประสานงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว และศูนย์ข่าวกรองอาชญากรรมสัตว์ป่าเพื่อหาความเชื่อมโยงกับคดีต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้น
ทั้งนี้ การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามข้อสั่งการของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดการตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ในพื้นที่รับผิดชอบ