ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งยุบกระทรวงศึกษาธิการ ท่ามกลางกระแสคัดค้านนโยยายของเขากับ อีลอน มัสก์ ที่ลุกลามไปถึงแคนาดา ที่มีการเจาะยางและขูดขีดรถยนต์เทสลาถึง 80 คัน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งให้การกำหนดนโยบายด้านการศึกษา อยู่ในความรับผิดชอบของแต่ละรัฐ และคณะกรรมการท้องถิ่นทั้งหมด ซึ่งเท่ากับเป็นการเริ่มดำเนินการยุบกระทรวงศึกษาธิการโดยพฤตินัย ทั้งนี้ นโยบายการศึกษาสหรัฐฯ เกี่ยวข้องกับการเมืองมาก เนื่องจากตัวแทนท้องถิ่นกลุ่มอนุรักษ์นิยม ซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรครีพับลิกันสนับสนุนโรงเรียนเอกชน และต่อต้านการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเชื้อชาติและทางเพศ ขณะที่กลุ่มเสรีนิยม ซึ่งสนับสนุนพรรคเดโมแครตสนับสนุนโรงเรียนของรัฐ และคุ้มครองความหลากหลายทางเชื้อชาติและเพศ ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่สามารถยุบกระทรวงศึกษาธิการโดยตรงได้ เพราะต้องได้รับอนุมัติจากรัฐสภาเสียก่อน
การลดขนาดหน่วยงานรัฐบาลกลาง ซึ่งมีนายอีลอน มัสก์ ผู้ดูแลกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาลเป็นผู้ดูแล ทำให้นาง แฮร์เรียต ฮาเกมัน สส.พรรครีพับลิกัน ถูกผู้ร่วมฟังการประชุมสภาเมืองลารามี รัฐไวโอมิงโห่ใส่ หลังกล่าวปกป้องเรื่องการปลดเจ้าหน้าที่รัฐของ อีลอน มัสก์ จนมีปากเสียงกัน
ขณะที่ นโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่มี อีลอน มัสก์ เป็นผู้สนับสนุน ยังทำให้กระแสต่อต้านลุกลามข้ามประเทศไปยังแคนาดา ซึ่งถูกประธานาธิบดีทรัมป์พาดพิงว่าควรยอมเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ และถูกขึ้นภาษีสินค้านำเข้าหลายอย่าง โดยล่าสุด มีรายงานโชว์รูมรถแห่งหนึ่งในเมืองแฮมิลทัน รัฐออนแทรีโอ ถูกผู้ไม่ประสงค์ดีแอบเข้าไปขูดฝากระโปรงรถ, บังโคลน และเจาะยาง ของรถยนต์เทสลากว่า 80 คัน ซึ่งเป็นการระบายความไม่พอใจต่อรัฐบาลสหรัฐฯ ทางอ้อม เนื่องจากนายมัสก์ ซึ่งเป็นซีอีโอของเทสลา สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ให้ตัดงบประมาณความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
