ความตึงเครียดชายแดนให้เป็นหน้าที่กองทัพของ 2 ประเทศ ส่วนความร่วมมือปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ นายกฯอิงค์ ยืนยัน กัมพูชาร่วมมือ 100 % ขณะนี้ปัญหาลดลงแล้ว แต่รัฐบาลต้องการปราบให้หมด
วันนี้ (21 มี.ค.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความตึงเครียดชายแดนประเทศไทย-กัมพูชาว่า วันนี้ที่เดินทางมากองบัญชาการกองทัพบก ไม่ได้คุยเรื่องดังกล่าว มาพูดคุยเรื่อง การปราบแก๊งคอลเซนเตอร์กับยาเสพติด แต่เรื่องชายแดนกองทัพดูแลอยู่แล้ว
เมื่อถามต่อว่า ได้คุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาแล้วหรือไม่ถึงประเด็นดังกล่าว นางสาวแพทองธาร ยอมรับว่า ยังไม่ได้คุย ให้เป็นหน้าที่ ของกองทัพทั้ง 2 ประเทศ
โดยในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรีปฏิเสธการตอบคำถามถึง กรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตถึงความสัมพันธ์ระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา ก่อนจะถามกลับสื่อมวลชนว่า “จะเอาให้ได้เลยไหม”
ข้อความตอนหนึ่ง นายกฯ ตอบคำถามในเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ ว่า ส่วนตัวได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งผู้นำทั้งสองประเทศ พร้อมให้ความร่วมมือ ในเรื่องนี้ โดยรัฐบาลกัมพูชาจะให้ความร่วมมือ 100% นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือผ่านคณะทำงาน ที่สามารถติดต่อกันได้ และให้ความช่วยเหลือกันอยู่ตลอด ซึ่งเช้าวันนี้ตนก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับ กสทช. ว่า ยังมีปัญหาอะไรบ้าง และเรื่องนี้ต้องขอความร่วมมือจากภาคเอกชนด้วยเช่นกัน
นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า การปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ขณะนี้ สามารถดำเนินการปราบปรามได้จำนวนมากแล้ว แต่ รัฐบาลต้องการให้หมดไป ซึ่งตนก็ได้รับรายงานจาก พล.ต.อ. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติว่า ยังมีกลุ่มเล็ก ๆ ย่อย ๆ ซึ่งรัฐบาลต้องการปราบให้หมดไป
ส่วนที่มีข้อสังเกตในเรื่อง รัฐบาลมีความมุ่งเน้นจะปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ในฝั่งเมียนมามากกว่าฝั่งกัมพูชานั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนรัฐบาลไทยได้ดำเนินการอย่างเข้มข้น และเมื่อเราขอความร่วมมือกับฝั่งกัมพูชาไป ก็พร้อมที่จะเข้มข้นไปกับเรา ซึ่งไม่เคยติดปัญหาในเรื่องของกระบวนการทำงาน และทางกัมพูชาก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งขณะนี้ได้ทราบถึงต้นตอปัญหาต่าง ๆ มาเยอะแล้ว ก็กำลังทำให้มันจบอยู่
ด้าน พล.ต.อ. ธัชชัย กล่าวเสริมว่า การปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ฝั่งกัมพูชา นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตนไปพูดคุยกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติประเทศกัมพูชา ระหว่างนี้อยู่ในกระบวนการของการพูดคุย ซึ่งก็จะมีการดำเนินการขับเคลื่อนต่อไป โดยทางตำรวจกัมพูชายืนยันจะกวาดล้างแก๊งคอลเซนเตอร์ให้กับไทย แต่ต้องรอช่วงเวลา เพราะเนื่องจากกัมพูชาเขาก็มีกฎหมาย ในการออกหมายค้นและการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในทางการปฏิบัติขณะนี้ยังไม่มีปัญหาอะไร