ห้องข่าวภาคเที่ยง - ปิดเทอม ต้องฝากผู้ปกครองดูแลบุตรหลานดี ๆ พยายามบอกเขา ว่ามีอะไรให้บอกพ่อกับแม่ เพราะเดี๋ยวนี้ภัยกลลวงต่าง ๆ อยู่รอบตัวเด็กมากขึ้น เหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ ที่มีวัยรุ่นชายอายุ 17 ปี ถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกแบบนี้
วัยรุ่นชายคนนี้ ถูกแก๊งคอลเซนเตอร์ หลอกว่ามีคดีฉ้อโกงอยู่ที่จังหวัดบึงกาฬ ให้ไปบอกแม่ว่า ตัวเองถูกจับเรียกค่าไถ่ สร้างเรื่องว่าจะต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ ต้องใช้เงินหลักล้านบาท
แต่ทีนี้พอจับได้ว่าไม่มีการเรียนต่อจริง แก๊งคอลเซนเตอร์ ก็บังคับให้ไปเปิดห้องพัก แล้วส่งภาพไปกดดันผู้ปกครองใหม่ ถ้าไม่ทำตามจะส่งตัววัยรุ่นชายคนนี้ไปประเทศกัมพูชา ยังให้ตบตาด้วยการเตรียมเอาน้ำแดง มาสร้างรอยแผล ว่าถูกตัดนิ้วมือ และบังคับให้วิดีโอคอลตลอดเวลา แม่ก็เลยไปแจ้งความกับตำรวจ จนนำไปสู่ปฏิบัติการช่วยเหลือเด็กคนนี้ออกมาได้สำเร็จ
หรือคดีนี้ก็ต้องฝากเตือนบุตรหลาน ที่เป็นเด็กหญิง เพราะมีมิจฉาชีพล่อลวงเด็กหญิงคนหนึ่ง วัย 12 ขวบ ใช้การชวนคุยผ่านเฟซบุ๊ก ตีสนิทตกลงคบหากัน จากนั้นก็อาศัยช่วงที่แม่เด็กออกไปทำงาน ล่อลวงโดยส่งโลเคชันที่อยู่ให้เด็กหญิงนั่งรถแท็กซี่ไปหา ที่ห้องพักคนงานใน ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
แต่แล้วเด็กก็ถูกยึดโทรศัพท์ ใช้กำลังทำร้าย ทั้งตบ เตะ บีบคอ บังคับขืนใจหลายครั้งตลอดระยะเวลา 5 วัน เด็กพยายามหนี แต่ถูกจับมัดมือขังไว้ในห้อง ให้กินข้าววันละ 1 มื้อเท่านั้น ที่รอดมาได้เพราะอาศัยจังหวะผู้ต้องหาออกไปเสพกัญชา ทิ้งโทรศัพท์ไว้ เด็กหญิงจึงเอามา โทรบอกแม่ จนนำไปสู่การช่วยเหลือได้สำเร็จ
ซึ่งไม่ว่าเป็นเรื่องไหน ก็อยากเตือนเป็นอุทาหรณ์ ยุคสื่อสังคมออนไลน์ เด็กและเยาวชนอาจตกเป็นเหยื่อได้ง่าย ผู้ปกครองควรดูแลการใช้สื่อของบุตรหลานอย่างใกล้ชิด รวมถึงสังเกตพฤติกรรม เพื่อจะได้ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำอีก