ตึกถล่มเป็นพื้นที่หวงห้าม ตร. จ่อดำเนินคดีชาวจีนดอดขนเอกสารโครงการตึกถล่ม ชี้แจงต้องนำไปเคลมประกันภายใน 72 ชม.
วันนี้ (30 มี.ค.68) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เดินทางลงพื้นที่อาคารถล่ม ชี้แจงกรณีพนักงานชาวจีนของบริษัทก่อสร้างอาคารถล่มเข้ามานำเอกสารออกไปจากพื้นที่เกิดเหตุ
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า พื้นที่เกิดเหตุเป็นท้องที่ในความรับผิดชอบของ สน.บางซื่อ โดยพื้นที่ตึกถล่ม กทม.ประกาศเป็นพื้นที่สาธารณภัย เป็นพื้นที่หวงห้ามในการปฏิบัติหน้าที่ บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจะเข้าพื้นที่ต้องได้รับลอนุญาต กรณีดังกล่าว เมื่อได้รับแจ้งเหตุชายชาวจีน 4 คน นำเอกสารออกจากอาคารจอดรถ ที่อยู่ด้านหลังตึกถล่ม ซึ่งถือเป็นพื้นที่หวงห้าม ตำรวจชุดสืบสวนได้ออกติดตาม พบชายชาวจีนอ้างเป็นผู้อำนวยการโครงการก่อสร้างอาคารดังกล่าว ตำรวจจึงแจ้งให้คนงานทั้ง 4 คน นำเอกสารมาส่งมอบคืน
เบื้องต้นตรวจสอบแล้ว ชาวจีนทั้ง 4 คน เป็นพนักงานของบริษัทผู้รับเหมา รวมถึงตัว ผอ.โครงการ มีเวิร์กเพอร์มิต ส่วนแฟ้มเอกสารจำนวน 32 รายการ เป็นเอกสารเกี่ยวกับผู้รับเหมา สำเนา RFI เอกสารความเห็น คำชี้แจง รายละเอียดของผู้รับเหมา ผู้รับเหมาเช่าช่วง งานแบบวิศวกรรม และสุขาภิบาล เป็นต้น ซึ่งตำรวจได้ตรวจยึดไว้ ส่วนชายชาวจีนทั้งหมด อนุญาตปล่อยตัวไป
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานเขตจตุจักร เตรียมส่งเจ้าหน้าที่นิติกรดำเนินคดีกับชายชาวจีน 4 คน เข้าพื้นที่ประสบสาธารณภัยโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อมีการแจ้งความ ตำรวจจะเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี ฐานเข้ามาพื้นที่ปิดกั้น โดยไม่มีอำนาจหน้าที่ ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ขอย้ำว่า การเข้ามาในพื้นที่เกิดเหตุตึกถล่ม มีข้อบังคับ ติดประกาศแล้ว เข้ามาต้องได้รับอนุญาตจาก ผอ.เขต หรือ ผู้ว่าฯ กทม.
ชายชาวจีนซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทผู้รับเหมา แจ้งว่าต้องการนำเอกสารไปแจ้งเคลมประกัน ซึ่งต้องดำเนินการภายใน 72 ชม. ขั้นตอนต่ไป เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่าเอกสารใดเป็นเอกสารจำเป็น และเอกสารรายการใดบ้างมีส่วนเกี่ยวข้องในทางคดีหรือไม่
ด้าน พล.ต.ท.สยาม กล่าวว่า การถล่มของอาคาร หากมีผู้กระทำความผิด อาจไม่มีความจำเป็นต้องใช้เอกสารมาตรวจพิสูจน์ เพราะมีนักวิชาการสาขาวิศกรรม ที่จะเข้ามาประเมินโครงสร้างอย่างละเอียดถึงสาเหตุที่ทำให้อาคารถล่ม