บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เผยเครื่องสแกนพบประมาณ 70 ร่าง ในห้องโถงประมาณชั้น 17-21 ภาวนาและหวังปาฏิหาริย์ 1 หรือ 2 หรือ 3 อาจเป็นผู้รอดชีวิต อุปสรรคคือผนังปูนหนาเป็นเมตร ทับถมอยู่ ต้องใช้เครื่องมือหนักรื้อถอน
ปฏิบัติการวันที่ 5 ภารกิจค้นหาผู้ประสบภัย กู้ตึกถล่ม วันนี้ (1 เม.ย.68) ท็อป บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ มูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งเข้าร่วมปฏิบัติการตั้งแต่วันแรกของเหตุตึกถล่ม เปิดเผยว่า เท่าที่เห็นภาพจากเครื่องสแกนของต่างประเทศ พบเห็นจุดที่คล้ายร่างของผู้ประสบภัยรวมกันอยู่ในห้องโถง โดยรวมกันอยู่ระหว่างกลางห้องโถง จากภาพเอกซเรย์ไม่เห็นลิฟต์ มองเห็นแต่ร่าง ในใจหวังว่าอาจมีปาฏิหาริย์ 1 หรือ 2 หรือ 3 ในนั้น อาจเป็นผู้รอดชีวิต หลายคนเริ่มทำใจและภาวนา
บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ บอกด้วยว่า อุปสรรคของการกู้ภัย คือ การถล่มของตึก 30 ชั้น การเข้าช่วยเหลือไม่มีแปลน พื้นปูนและผนังด้านข้าง หนาเป็นเมตร กู้ภัย พยายามเจาะ พยายามรื้อ แต่ใช้เครื่องมือหนักไม่ได้ ปฏิบัติการ 4-5 วันนี้ เพิ่งเจอ 14 ร่าง ตอนนี้ต้องใช้เครื่องมือหนัก เข้ายกผนังกำแพงที่ทับถมกันอยู่
“เครื่องมือสแกนของต่างประเทศพบจุดที่สันนิษฐานว่าพบร่างจำนวนมาก อาจมีประมาณ 70 ร่าง ในห้องโถง อยู่ที่ความลึกประมาณชั้น 17-21 จากข้อมูลเป็นห้องที่พวกเขาทำงานกัน และเป็นจุดที่คนงานและหัวหน้างานมานั่งพักกินข้าว ดังนั้นภารกิจเร่งด่วนคือต้องเอาเหล็กและปูนที่ทับกันอยู่ออกให้เร็วที่สุด เพื่อข้าให้ถึงจุดที่สแกนพบร่าง”
บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ชี้แจงด้วยว่า การทำงานของกู้ภัยไม่ได้ล่าช้า ทันทีที่สแกนพบร่าง กู้ภัยขุดค้นหาไม่หยุดพัก ไม่มีคำว่าทำช้า หรือทำงานโดยไม่มีความรู้ หากมาเห็นหน้างานจะรู้ว่ายากมาก เป็นงานที่หินมาก แต่เมื่อเข้าไปไม่ได้จริง ๆ จึงต้องใช้เครื่องมือหนัก
