ลุง-ป้า 2 พี่น้องใจสู้! ทำ "ขนมปำ" ขายหาเงินรักษา หลังป้าป่วยโรคมะเร็ง รักษามานาน 15 ปี ด้านคุณลุงเผยไม่ได้เปิดรับบริจาค แค่อยากให้ช่วยอุดหนุนขนม จ.สงขลา
ภายหลังจากที่ ผุ้สื่อข่าวได้รับเรื่องราวจากผุ็ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่ระบุว่า มีลุงกับป้าซึ่งทั้ง 2 คน เป็นพี่น้องกัน ได้นั่งขายขนมปำซึ่งเป็นขนมท้องถิ่นของคนภาคใต้ บริเวณหน้าวัดแจ้ง ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา พร้อมกับมีป้ายสีเหลืองและมีการเขียนข้อความระบุว่า "ช่วยอดหนุนซื้อขนมป้านํ้าตาลโดนด (ทำเอง) กล่องละ 20 บาท
ด้วยดิฉันชื่อ น.ส.กรณก อายุ 73 ปีป่วยเป็นมะเร็งลำไส้และลามไปที่ตับมาหลายปีแล้วแล้วและหมดเงินไปกับคำรักษาเป็นจำนวนเงินมาก จนทำให้ทุนนี้ ดิฉันมีเงินผู้สูงอายุไว้ใช้ใช้จ่ายเดือนละ 700 บาท ต่อเดือนเท่านั้น (บัตรสวัสดิการแห่งรัฐก็อไม่มี) แต่ได้น้องชายช่วยทำชนมปำให้ดิฉัน มานั่งขายและส่งตามร้านได้ไม่กี่ร้าน เพระทำได้ไม่มากซึ่งพอมีเงินไว้ซื้ออาหารทานวันต่อวันเท่านั้นค่ะ ขอบคุณคุณทุกท่านที่ช่วยอุดหมุดค่ะ (ป้าณา 0902013355 ).
จึงอยากให้เป็นกระบอกเสียงช่วยประชาสัมพันธ์ เพื่อจะมีลูกค้ามาอุดหนุนลุงกับป้าเยอะ ๆ จะได้มีรายได้เพิ่ม เพื่อนำไปรักษาตัวเอง กินอาหารดี ๆ เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดโรคร้ายต้องลามไปจุดอื่นของร่างกาย
ล่าสุดวันนี้ (2 เม.ย. 68) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่บริเวณหน้าวัดแจ้ง ถนนไทรบุรี ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลาซึ่งจากการสอบถามชาวบ้าน ทราบว่าลุงกับป้า อาศัยอยู่บ้านเช่า บริเวณด้านหลังศาลพระเเม่กวนอิมสวนหมากถนนสวนหมาก ตรงข้ามวัดแจ้ง ก่อนเดินทางไปพบกับ น.ส.กรุณา กลิปกาญจน์ หรือ ป้าณา อายุ 74 ปี (พี่สาว) อดีตพนักงานธนาคาร และนายนิพนธ์ กปิลกาญจน์ อายุ 68 ปี (น้องชาย) อดีตข้าราชการบำนาญ อาจารย์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย โดยทั้งสองคนเป็นพี่น้องกันและต่างไม่มีครอบครัว จึงได้มาอาศัยอยู่ด้วยกันและทำขนมปำขายเลี้ยงชีพ
นายนิพนธ์ เผยว่า เมื่อก่อนตนเป็นอาจารย์ ต่อมาก็ได้เกษียรอายุราชการ ซึ่งตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยก็คงจะสงสาร และเห็นว่าเรายังสอนได้อยู่ ก็มีให้ไปช่วยสอนสัปดาห์ละ 1 วัน ต่อมาประมาณปี 2553 พี่สาวซึ่งขณะนั้นยังทำงานธนาคารอยู่ได้เริ่มมีอาการถ่ายออกมาเป็นเลือด ก็เลยพาไปตรวจที่โรงพยาบาลหลังจากมีการส่องกล้อง ทำให้ทราบว่าพี่สาวมีก้อนที่ลำไส้เป็นมะเร็งระยะที่ 4 หลังจากนั้นจึงมีการนัดผ่าตัด หลังเสร็จก็มีการให้คีโมมาตลอดจนอาการดีขึ้น หลังจากนั้นประมาณ 2 ปี หลังจากพี่สาวเกษียณแล้วก็มีการพบก้อนมะเร็งอีก ซึ่งเกิดขึ้นที่ตับและก็ได้ผ่าตัดไปอีกครั้ง เมื่อถึงขั้นตอนของการให้คีโม ก็ต้องใช้จ่ายในการทำคีโมครั้งละ 26,000 บาท และพี่สาวต้องทำคีโม 10 ครั้ง ซึ่งตอนนั้นต้องใช้เงินเยอะมาก และพี่สาวก็ได้เกษียณแล้วจึงไม่มีรายได้จากการทำงานเลย
ซึ่งภายหลังจากผ่าตัดขอบตับไปแล้ว ไม่นานก็กลับมาซ้ำอีกครั้ง ทางด้านคุณหมอไม่แนะนำให้ผ่าตัด เพราะเห็นว่าอายุมากแล้ว ไม่แนะนำให้ผ่าตัดหลายครั้งติด ๆ กัน
จึงใช้วิธีนำเข็มความร้อนเจาะเข้าไปบริเวณก้อนเนื้อให้เหี่ยวแต่ปรากฎว่าไปโดนเส้นเลือดใหญ่บริเวณตับจนปูดออกมา ถ้าไม่ผ่าตัดเอาออกพี่สาวอาจไม่รอด จึงต้องผ่าตัดอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ให้คีโมมาตลอด ซึ่งคุณลุงจึงจำเป็นต้องขายบ้านที่อยู่แถวย่านถนนนางงามเพื่อนำเงินมารักษาค่าพยาบาล ซึ่งรายได้ก็เริ่มไม่มี มีแต่รายจ่ายเข้ามาตลอด จึงเริ่มคิดทำขนมขาย ซึ่งทำขายมาหลากหลาย ทั้งขนมชั้น ขนมท้องม้วน แต่มาประสบความสำเร็จจากขนมปำ ซึ่งมีคนติดใจในรสชาติ จึงทำขนมปำขายมาตลอดตั้งแต่ปี 2562
แต่เมื่อก่อนจะเป็นการฝากร้านขาย ซึ่งร้านจะรับไว้ในราคากล่องละ 15 บาท ต่อมาเห็นว่าไม่พอใช้จ่าย จึงเริ่มแบ่งบางส่วนมาขายเอง เพราะจะได้รับเต็มจำนวนในราคากล่องละ 20 บาท บางวันขายหมด บางวันก็เหลือ ก็นำมาแจกบ้าง ซึ่งรายได้ทั้งหมดก็มาจากการขายขนมทั้งหมด เพราะพี่สาวก็ไม่มีรายได้มีเพียงบัตรผู้สูงอายุที่ได้เดือนละ 700 บาท ส่วนตนก็มีได้ค่าสอนมาเล็กน้อย
ขณะที่ ป้าณา เล่าว่า ตอนนั้นอายุ 59 ปี อีกไม่นานก็กำลังจะเกษีญณอายุ หลังจากถ่ายเป็นเลือด ก็ได้เข้าไปหาหมอก็ทราบว่าตนป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ ตนก็สู้และพยายามรักษามาตลอด จนตอนนี้อาการดีขึ้น แต่บางครั้งถ้ามีอาการปวดท้องก็ต้องไปตรวจอยู่ตลอด ซึ่งหมอก็มีการตรวจผลเลือดติดตามอาการตลอด ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ดี แต่บอกแน่นอนไม่ได้ว่าอาการจะกำเริบอีกตอนไหน ก็ต้องระวังและควบคุมอาหาร โดนตนเองกินแต่ปลา ไม่ได้กินเนื้อสัตว์ใด ๆ เลย ซึ่งตนป่วยมากตั้งแต่ปี 2553 นับรวมก็ป่วยและรักษาตัวมาตลอดกว่า 15 ปี
ทั้งนี้ คุณลุง ยังกล่าวเสริมด้วยว่า ที่ได้มีการโพสต์ข้อความไปไม่ได้ตั้งใจต้องการเปิดรับบริจาค เพียงแต่อยากให้คนที่ผ่านไปมาช่วยแวะอุดหนุนขนมหน่อยเท่านั้น ซึ่งเมื่อคนโอนเงินช่วยเหลือเข้ามามาก ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร รู้สึกเกรงใจเพราะตนแค่ต้องการขายขนมเท่านั้น โดยตอนนี้ก็เริ่มมีคนเดินทางมาอุดหนุนเป็นจำนวนมาก บางคนก็โทรมาสั่งซื้อกว่า 100 กล่อง แต่ทำไม่ทัน ลูกค้าบางรายจึงแจ้งให้ทำส่งวันละ10-20 กล่อง ตามจำนวนที่จะทำไหว หากใครต้องการอุดหนุนก็สามารถมาซื้อได้หน้าวัดแจ้ง ตั้งแต่เวลา 06.30 -08.30 น.ของทุกวัน หรือโทร 090 201 3355