เวลา 17.24 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายนเรนทร โมที นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐอินเดีย เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล
ในโอกาสนี้ นายสิทธารถ บาบู นักการทูตปฏิบัติการ กรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย ปฏิบัติหน้าที่ล่ามภาษาฮินดี-อังกฤษ ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ด้วย
ประเทศไทย และสาธารณรัฐอินเดีย มีความสัมพันธ์ที่ดีในระดับพระราชวงศ์และระดับรัฐบาล ทั้งยังมีความผูกพันด้านวัฒนธรรมมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 6-11 โดยสถาปนาความสัมพันธ์ในระดับอัครราชทูตต่อกัน เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2490 และในระดับเอกอัครราชทูต เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2494 โดยมีการฉลองครบ 75 ปี ของการสถาปนาทางการทูตไปเมื่อปี 2565 ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนสาธารณรัฐอินเดียอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 7-21 เมษายน 2535 และเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนอีกครั้งเมื่อวันที่ 23-27 ธันวาคม 2541 กับทรงทำการบินเครื่องบินพระที่นั่งเที่ยวบินพิเศษมหากุศล เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2553 ซึ่งทรงทำหน้าที่นักบิน นำพุทธศาสนิกชนไปกราบสักการะสังเวชนียสถาน ณ ตำบลพุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า โดยรัฐบาลของทั้งสองประเทศได้มีความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อาทิ ปี 2567 รัฐบาลไทยและรัฐบาลอินเดีย มีความเห็นชอบอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ มาประดิษฐานที่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ระหว่างวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ถึง 18 มีนาคม 2567 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 รวมทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับสถานพยาบาลกุสินาราคลินิก เมืองกุสินารา รัฐอุตตรประเทศ ไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์
การเดินทางมาเยือนประเทศไทยของนายกรัฐมนตรีอินเดียครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2559 ได้เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ซึ่งในครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะได้หารือร่วมกัน เพื่อยกระดับความพันธ์และความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อาทิ เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การศึกษา วิทยาศาสตร์ และการท่องเที่ยว ตลอดจนการเชื่อมโยงทางคมนาคม รวมทั้งความร่วมมือด้านความมั่นคง