รถจักรยานยนต์ ไม่มีเบา! ซิ่งชนคุณตาวัย 79 ปี ขณะเดินข้ามทางม้าลายจนล้มหัวฟาดพื้น คันหลังตามมาเหยียบซ้ำดับสลด จ.สมุทรปราการ
เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 6 เม.ย.68 ร.ต.ท.หญิง รามวลี ทองเรือง พงส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนคนข้ามถนนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณถนนประชาอุทิศ 90 หมู่ที่ 10 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน รถวิ่งสวนทางกัน บริเวณกลางถนนพร่างนายไสว อายุ 79 ปี นอนหายใจรวยรินคว่ำหน้าจมกองเลือด เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งปฐมพยาบาลพร้อมทำ CPR ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ใกล้กันมีถุงดำใส่ขยะรีไซเคิ้ลตกอยู่ในสภาพขาดกระจุย ข้าวของในถุงตกหล่นกระจายเกลื่อนพื้น
ห่างกันปะมาณ 20 เมตรพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น N-MAX สีน้ำเงิน ล้มคว่ำอยู่และห่างกันประมาณ 80 เมตร พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ HONDA รุ่น PCX สีดำ ล้มคว่ำในสภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน ใกล้กันพบขวดเบียร์ ตกอยู่ด้วย ในที่เกิดเหตุยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 2 คน คือ นายจักรพงษ์ อายุ 29 ปี และ น.ส.อัญธิกา อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง
จากการสอบถาม นายประเวศน์ อายุ 62 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านพักในหมู่บ้าน เพื่อจะไปส่งภรรยาบริเวณปกวอยประชาอุทิศ 90 เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเห็นคุณตา ผู้เสียชีวิตกำลังเดินข้ามถนนทางม้าลาย เดินเกือบจะถึงกลางถนนแล้ว ก่อนที่รถจักรยานยนต์ PCX สีดำ ซึ่งขี่มาด้วยความเร็ว จะพุ่งชนร่างของคุณตาจนกระเด็นหัวฟาดพื้น คนขี่และรถจักรยานยนต์กระเด็นไปไกล ก่อนที่รถจักรยานยนต์ N-MAX สีน้ำเงิน ที่มีผู้หญิงขี่ตามหลังมา จะชนร่างคุณตาซ้ำ ตนจึงรีบจอดรถลงไปช่วยและโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยให้รีบเดินทางมาช่วยเหลือ
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าผู้ตายกำลังจะเดินข้ามถนนบนทางม้าลายเป็นจังหวะเดียวกับรุจักรยานยนต์ PCX วิ่งมาด้วยความเร็วก่อนพุ่งชนร่างผู้เสียชีวิต อย่างจังกระเด็นไปคนละทิศละทาง ก่อนที่จะถูกรถจักรยานยนต์ N-MAX ชนซ้ำ ก่อนที่จะบันทึกภาพและลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้นพร้อมเดินทางไปสอบปากคำผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลและตรวจวัดระดับประมาณแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ อีกทั้งได้มอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์และดำเนการตามกฎหมายต่อไป