วันนี้ (8 เม.ย. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจศูนย์ปราบปรามทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ภาค 5 และ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.5 ทำการสืบสวนติดตามกลุ่มเครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์ หลอกลวงประชาชนไทย
ต่อมาได้ทำการสืบสวน จนทราบว่า มีการจัดตั้งออฟฟิศชักชวนคนไปทำงาน เป็นพนักงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งในสำนักงานดังกล่าวจะมีแอดมินคอยโพสต์ ชักชวนคนตามกลุ่มโซเซียลมีเดียต่าง ๆ เกี่ยวกับการหางานทำ ให้มีคนแอดเข้ามาคุยกับแอดมินในออฟฟิศดังกล่าว
จากนั้นแอดมินจะชักชวนคนให้ไปทำงานเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ หรือหลอกลวงด้วยวิธีอื่น ๆ มีสถานที่ทำงานที่ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา งานเป็นแอดมิน งานสบาย รายได้ดี หากมีคนสนใจ จะมีบริการพาข้ามฝั่งไปยังประเทศกัมพูชา ทั้งรูปแบบมีพาสปอร์ต และไม่มีพาสปอร์ต จึงได้ ขออนุมัติศาลจังหวัดเชียงใหม่ เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองป่าครั้ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่
จนกระทั่งล่าสุดได้เข้าทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว พบนายพรณรค์ อายุ 31 ปี น.ส.พรนภา อายุ 29 ปี และ น.ส.สุดารัตน์ อายุ 25 ปี พร้อมของกลาง
1. คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ พร้อมอุปกรณ์
2. โทรศัพท์มือถือ สีครีม 1 เครื่อง
3. แท็บเล็ต 1 เครื่อง
4. คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ สีดำ พร้อมอุปกรณ์
5. โทรศัพท์มือถือ สีดำ 1 เครื่อง
6. คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ สีดำ พร้อมอุปกรณ์
7. โทรศัพท์มือถือ สีเขียว 1 เครื่อง
8. โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ สีดำ 1 เครื่อง
9. เร้าเตอร์ WiFi สีดำ 1 เครื่อง
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่าได้มาทำงานที่ออฟฟิตแห่งนี้ได้ 1 เดือนแล้ว โดยมีหน้าที่จัดหางานให้คนไทยไปทำงานที่ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จะส่งคุณสมบัติคนไทยไปให้บอสคนจีน หากบอสคนจีนตอบรับ จะส่งคนไทยนั่งรถจากเชียงใหม่ไปที่ขนส่งหมอชิต และนั่งรถจากหมอชิตไปลงสระแก้ว แล้วจะมีคนฝั่งบอสจีน มารับข้ามฝั่งทางช่องทางธรรมชาติไปหลังจากที่หลอกคนไทยไปทำงานแล้ว เมื่อข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านแล้วจะได้เทสงานเป็นแอดมินฟิวแฟน หรือแอดมินหลอกทำภารกิจ และคนไทยที่ทำงานกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชาจะได้เงินเดือนละ 35,000 บาท ส่วน HR หากหาคนได้จะได้รายได้ต่อหัว หัวละ 200 ดอลล่า หรือ 6,900 บาท
โดยก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ก็ได้ข้ามไปทำงานเป็น HR ที่เมืองกันดาน ประเทศกัมพูชาแล้วเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว เมื่อเรียนรู้งานเสร็จจึงกลับมาทำงานในประเทศไทยต่อ โดยได้ค่าคอมมิชชั่น เมื่อหาคนไทยไปทำงานที่กัมพูชาได้ โดยจะได้เงินต่อคน 200 ดอลลาร์ ประมาณ 6,900 บาท และหาพนักงานได้ประมาณเดือนละ 10 คน รายได้ต่อเดือนประมาณ 60,000-70,000 บาท
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตร. จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ส่งตำรวจ สภ.แม่ปิง ดำเนินคดีข้อหา“พรบ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 ม.30 พร้อมกันนี้จะทำการสืบสวนขยายผลหาบอสคนจีน ผู้ร่วมกระทำความผิดคนอื่น และขยายผลหาแหล่งที่ตั้งทำงานของคอลเซ็นเตอร์ ในพื้นที่ประเทศกัมพูชาต่อไป