ห้องข่าวภาคเที่ยง - ศาลจังหวัดสงขลา ออกหมายจับคนร้ายก่อเหตุชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่แล้ว ตำรวจยืนยันยังอยู่ในพื้นที่ พร้อมตั้งรางวัลนำจับ 100,000 บาท
นาทีที่คนร้ายบุกเข้าไปชิงสร้อยคอทองคำและสร้อยข้อมือ น้ำหนักรวม 138 บาท ในห้างทองชื่อดังริมถนนมนตรี 1 ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ก่อนเที่ยงเมื่อวานนี้ (8 เม.ย.)
ล่าสุดเช้าวันนี้ ห้างทองดังกล่าวปิดให้บริการกับลูกค้า โดยมีพนักงานอยู่ในร้านพูดคุยกับเจ้าของร้าน แล้วทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ยังอยู่ในอาการหวาดผวา เนื่องจากว่าคนร้ายคนดังกล่าวมีอาวุธปืนและก่อเหตุอย่างใจเย็น ซึ่งห้างทองแห่งนี้เปิดให้บริการมานานมากกว่า 40 ปี มีกล้องวงจรปิดและสัญญาณเตือนภัย เป็นระบบรักษาความปลอดภัยเท่านั้น ซึ่งก่อนเกิดเหตุ เจ้าของร้านก็ให้ช่างมาประเมินราคาในการีโนเวตร้าน เพื่อปรับปรุงให้ทันสมัยมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ทันได้ดำเนินการ ก็ถูกคนร้ายก่อเหตุชิงทองก่อน
ขณะที่ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายสุวิทย์ อู่โภคาทรัพย์ เจ้าของห้างทองไทยยินดี 2 ที่อยู่ตรงข้ามกับห้างทองที่ถูกคนร้ายชิงทองเมื่อวานนี้ ก็ยืนยันว่า หลังจากดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว คนร้ายที่ก่อเหตุเมื่อวานนี้เป็นคนเดียวกันกับที่เคยก่อเหตุชิงทองในร้านของตนเมื่อปี 2560 ซึ่งแปลกใจว่าเหตุใดจึงพ้นโทษอย่างรวดเร็ว เพราะนอกจากถูกจำคุกในคดีชิงทองแล้ว ก็ยังมีคดีฆ่าคนตายด้วย ในขณะนี้หากตำรวจยังจับกุมไม่ได้ ผู้ประกอบการร้านทองก็คงต้องอยู่กันอย่างหวาดผวา
ขณะที่ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เรียกประชุมตำรวจชุดสืบสวนทุกหน่วย และตำรวจภูธรภาค 9 ที่ สภ.หาดใหญ่ เพื่อติดตามเร่งรัดคดีดังกล่าว ซึ่งการสืบสวนไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ย่านเศรษฐกิจ กลางเขตเทศบาลนครหาดใหญ่
พบว่า หลังคนร้ายเปลี่ยนเสื้อผ้าและทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้ในซอยห่างจากจุดเกิดเหตุ 350 เมตร ก็ได้เดินปะปนกับนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ บริเวณตลาดซีกิมหยง ที่อยู่ด้านหลังตลาดกิมหยง ซึ่งจุดดังกล่าว มีนักท่องเที่ยว 2 สัญชาติจำนวนมาก ที่มารับประทานอาหารและซื้อของฝาก จากนั้นนั่งรถจักรยานยนต์ ไปลงที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร อำเภอหาดใหญ่แห่งที่ 1 และขณะนี้ข้อมูลล่าสุดก็พบว่า คนร้ายอาจจะไปเช่าห้องพักอาศัยอยู่ในพื้นที่รอบนอก
ทั้งนี้ พลตำรวจโท ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจประจำภาค 9 ได้มีการตั้งรางวัลนำจับคนร้าย 100,000 บาท