ไรเดอร์หัวร้อนถีบ ชกกกหู หนุ่มอายุ 17 ปี ไม่พอใจเรียกใช้บริการซ้อน ผู้ปกครองติดต่อไรเดอร์กลับพูดจาข่มขู่ ยืนยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
วันนี้ (9 เม.ย.68) กล้องวงจรปิดหน้าโรงเรียนกวดวิชาแห่งหนึ่งย่าน ต.พระสิงห์ อ.เมืองเชียงใหม่ บันทึกภาพเหตุการณ์ไรเดอร์หัวร้อนทำร้ายร่างกายหนุ่มคนหนึ่งขณะขึ้นซ้อนรถจักรยานยนต์ของไรเดอร์อีกคนที่มาจอดรับ โดยชายคนขับไรเดอร์คันที่จอดด้านหน้า ได้มีการพูดจาต่อว่าหนุ่มคนดังกล่าวซึ่งเป็นลูกค้า ก่อนจะจอดรถและเดินปรี่เข้ามาชี้หน้า จากนั้นจะเห็นว่าไรเดอร์คนดังกล่าวได้ใช้เท้าถีบเข้าที่บริเวณลำตัวของหนุ่ม ขณะที่กำลังนั่งซ้อนท้ายไรเดอร์อีกคัน และยังใช้หมัดชกใส่บริเวณหัว จนทำให้รถเซ จากนั้นจึงเดินกลับไปขี่รถจักรยานยนต์ของตนเองออกไป โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ทำให้หนุ่มที่ถูกทำร้ายต้องเดินทางเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังเกิดเหตุ
นายก้อง (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้ปกครอง ซึ่งมีอาชีพรับราชการได้นำหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด พร้อมหลักฐานการแจ้งความ เข้ามาเปิดเผยกับทางผู้สื่อข่าวพร้อมทั้งเล่าเรื่องราวข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์ดังกล่าวให้ฟัง เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเย็นของวันที่ 6 เม.ย.68 ตนเองมาเรียนพิเศษที่โรงเรียนกวดวิชาและกำลังจะกลับบ้าน โดยกดเรียกรถโดยสารซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชั่นหนึ่งที่ให้บริการ โดยตอนแรกที่ตนกดแอปฯ เห็นว่ามีรถพร้อมให้บริการอยู่ไม่ไกลจากจุดที่ตัวเองอยู่จึงได้กดเรียก แต่หลังจากรออยู่พักหนึ่งก็ได้กดเรียกอีกคัน โดยที่ตอนนั้นคิดว่าได้กดยกเลิกคันก่อนหน้าที่เรียกไปแล้ว ต่อมาไรเดอร์ 2 คันได้มาถึงจุดที่รับในเวลาไล่เลี่ยกัน ตนเองได้ไปขึ้นรถที่เรียกมาคันที่สอง ทำให้คนขับรถที่ถูกเรียกคันแรกไม่พอใจ คิดว่าตนเองต้องการกลั่นแกล้งหรือก่อกวน ตนเองจึงได้ขอโทษพร้อมกับเข้าไปเช็คดูในแอปพลิเคชั่น ก็พบว่าตัวเองไม่ได้กดยกเลิกคันแรกจริง แต่ยังไม่ได้ทันอธิบายอะไร ไรเดอร์ก็ปรี่เข้ามาด่าทอและใช้เท้าถีบเข้าที่ชายโครงฝั่งซ้าย ด่าไม่พอใจที่ตนเองกดเรียกมาสองคันทำให้ต้องเสียเวลาขี่มารับ และยังได้ใช้หมัดชกเข้ามาที่กกหู แต่ตนเองก็ไม่ได้ตอบโต้และตกใจที่คนขับเข้ามาทำร้ายร่างกาย
นายก้อง บอกว่า ตอนนั้นยอมรับว่าผิดที่ไม่ได้ทำการกดยกเลิกและได้ขอโทษไปแล้ว แต่ไม่คิดว่าทางคนขับจะทำถึงขนาดนี้ และ หลังจากที่โดนทำร้ายตนก็ไม่ได้พูดจาไม่ดี หรือมีปากเสียงกลับแต่อย่างใดและยังสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตนเองคิดว่าคนขับทำเกินกว่าเหตุ แม้ว่าตนเองจะผิดแต่ก็ไม่ให้โอกาสได้อธิบาย หรือหากให้จ่ายค่าชดเชยเสียเวลา ตนเองก็ยินดีที่จะจ่ายให้ แต่ทางเจ้าตัวกลับพูดจาโวยวายและเข้ามาทำร้ายร่างกายด้วยอารมณ์โมโห หลังจากเกิดเหตุก็ได้เข้าไปแจ้งความที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ และแจ้งให้ผู้ปกครองทราบ
ผู้ปกครองของนายก้อง บอกว่า หลังจากทราบเรื่องก็ได้มีการพยายามติดต่อคู่กรณีที่ภายหลังทราบชื่อคือ นายปกรณ์ อายุ 56 ปี จนกระทั่งล่าสุดวันที่ 8 เม.ย.68 จึงสามารถติดต่อได้ โดยตนได้โทรศัพท์ไปหาและพยายามนัดเจอเพื่อตั้งใจที่จะเจรจาไกล่เกลี่ยกัน แต่อีกฝ่ายทางคู่กรณีกลับหาว่าทางตนเองไปท้าทายและบอกให้ไปหาที่ สภ.หางดง โดยบอกว่าได้ไปแจ้งความไว้เช่นกันที่โรงพักตนเองก็บอกไปแล้วว่าไม่ใช่ท้องที่เกิดเหตุ แต่ทางฝ่ายคู่กรณีก็ไม่ยินยอมที่จะเดินทางมาพูดคุย อีกทั้งยังมีการพูดจาท้าทาย จนสุดท้ายตนเองก็ไม่อยากที่จะติดต่อกับทางคู่กรณีและหลังจากนี้ก็จะเดินหน้าใช้สิทธิตามกฎหมาย และให้อีกฝ่ายไปรับผลกรรมที่กระทำเอง
ผู้ปกครอง ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเนื่องจากลูกชายยังเป็นเยาวชนอายุเพียง 17 ปี และไม่เคยมีพฤติกรรมเกเร ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางลูกชายก็ยังรู้สึกผวา ฝากถึงทางคู่กรณีด้วยว่า คุณไม่มีสิทธิที่จะไปทำอะไรแบบนี้ในฐานะที่ตัวเองเป็นคนให้บริการ ต้องมีจิตใจที่โอบอ้อมอารีหรืออดทนในสิ่งที่เกิดขึ้นให้มากกว่านี้ด้วย