สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ชายชาวอินเดีย ถูกเพื่อนร่วมชาติหลอกไปทำงานต่างประเทศ แต่กลับพาไปขังและเรียกค่าไถ่ เกือบ 1 ล้านบาท ดีที่ตำรวจไทยช่วยเหลือได้ทัน
ชายชาวอินเดีย ทั้ง 6 คน พอเห็นตำรวจนครบาล ก็วิ่งขึ้นไปบนชั้น 2 ของบ้านพัก ภายในซอยสันติคราม 8 สุขุมวิท 109 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ แต่ก็หนีไม่รอด เหตุเกิดเที่ยงวานนี้
ช่วยเหลือตัวประกัน 3 คน ที่ถูกกักขังภายในห้องนอนชั้น 2 ในสภาพมัดมือ-เท้า ใกล้กันพบไม้พันเทปใช้สำหรับทุบตี ข่มขู่ผู้เสียหาย
หนึ่งในตัวประกัน ชี้ให้ตำรวจดูสะโพกด้านขวา ที่ถูกทุบตีเป็นรอยช้ำ เพื่อเรียกเงินค่าไถ่ 2.5 ล้านรูปี หรือประมาณ 976,221 บาท กับน้องสาวผู้เสียหายที่ประเทศอินเดีย หากไม่จ่ายขู่ว่าจะตัดอวัยวะต่าง ๆ ตามร่างกาย
คดีมันเริ่มจาก นายราเมซ และนายอามันดีป และรู้จักกับกลุ่มคนร้าย กระทั่งวันที่ 14 เมษายน ช่วงเวลา 18.00-19.00 น. นายราเมซ และนายอามันดีป ก็ออกจากโรงแรมหรูย่านสาทร ขึ้นรถแท็กซี่ไปกับชายชาวอินเดียไม่ทราบชื่อ โดยบอกว่าจะขึ้นเครื่องบินไปเที่ยวที่ประเทศเวียดนามต่อ หลังจากที่นั่งแท็กซี่ไปด้วยกัน กลับถูกพาไปบ้านที่เกิดเหตุ แล้วทั้ง 2 คน ก็ถูกขังแบบนั้น จนตำรวจมาช่วยเหลือออกมา
ตำรวจได้เรียกตัว นายวิรัตน์ คนขับรถแท็กซี่ เข้าให้ปากคำ แต่ไม่พบพิรุธ เชื่อว่าไม่มีส่วนรู้เห็น
จากการขยายผล สามารถจับชาวอินเดียได้อีก 1 คน ที่จังหวัดชลบุรี ทำหน้าที่โทร.ข่มขู่รีดทรัพย์ผู้เสียหาย จึงคุมตัวกลับมาสอบปากคำที่กรุงเทพฯ ทราบว่าทั้ง 7 คน ร่วมกันออกอุบายหลอก นายราเมซ และนายอามันดีป ว่าเป็นนายหน้าจัดหางาน สามารถพาไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลียได้ ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ ยอมตามมาแต่โดยดี
ส่วนผู้เสียหายอีก 1 คน คือ นายซานจีฟ อายุ 27 ปี ที่ถูกช่วยออกจากที่เกิดเหตุเช่นกัน รายนี้ถูกหลอกมาจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ตำรวจต้องแยกออกเป็น 2 คดี คือ ชาวอินเดีย 2 คน ถูกหลอกจากโรงแรมหรูย่านสีลม และอีก 1 คน ถูกหลอกจากสนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากนี้ต้องตรวจสอบในเชิงลึกว่า มีคนไทยเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่