เทศกาลอีสเตอร์ เป็นการรำลึกถึงวันที่พระเยซูคริสต์ทรงคืนพระชนม์ หลังจากถูกตรึงด้วยไม้กางเขน 3 วัน ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ ชาวคริสต์ทั่วโลกจะจัดการเฉลิมฉลองเทศกาลอีสเตอร์ในรูปแบบต่าง ๆ ที่โบสถ์พระคูหาศักดิ์สิทธิ์ ในนครเยรูซาเร็ม อิสราเอล มีพิธีจุดเทียนจากไฟศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นจะมีการจุดเทียนต่อ ๆ กันไปทั้งภายในโบสถ์และนอกโบสถ์
ข้ามไปที่เกาะคีออสในประเทศกรีซ 2 โบสถ์เก่าแก่ จะยิงดอกไม้ไฟหลายร้อยลูก เข้าใส่กันกัน เพื่อหวังให้โดนระฆังของอีกโบสถ์ ซึ่งการยิงดอกไม้ไฟอันน่าตื่นตาตื่นใจแบบนี้ มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 สมัยที่อาณาจักรกรีกโบราณ อยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิออตโตมันแล้ว
ยังอยู่ที่กรีซ แต่เป็นที่เกาะคอร์ฟู มีประเพณีโยนหม้อดินเผาขนาดใหญ่จากระเบียงลงบนถนนด้านล่าง ซึ่งเชื่อกันว่าสามารถขับไล่วิญญาณชั่วร้ายและนำโชคมาให้ เป็นประเพณีตามความเชื่อมานานหลายร้อยปี
ส่วนที่หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในสาธารณรัฐเช็ก มีประเพณีเก่าแก่ที่เรียกว่า "การเดินขบวนจูดาส" โดยเด็กชายวัยรุ่นคนโตที่สุดในหมู่บ้าน จะแต่งตัวชุดฟางเป็น "ยูดาส" ซึ่งพระคัมภีร์กล่าวว่า เป็นผู้ทรยศพระเยซู และเดินไปรอบหมู่บ้าน พร้อมกับกลุ่มเด็กๆ ที่เล่นลูกกระพรวนและร้องเพลง เพื่อรับของกำนัลต่าง ๆ เช่น ขนมและเงินจากชาวเมืองใส่รถเข็น หลังจากตระเวนครบทุกบ้านแล้ว เด็ก ๆ จะพาจูดาสไปถอดชุด เพื่อนำชุดฟางมาเผา และแบ่งของกำนัลจากรถเข็นอย่างเท่า ๆ กัน