ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตำรวจเตรียมนำตัวสาวประเภทสอง คลุ้มคลั่งใช้คัตเตอร์กรีดตามร่างกายและใช้ผ้าชุบน้ำมันจุดไฟเผา หลวงตา อายุ 70 ปี ส่งไปตรวจอาการทางจิตเวชที่โรงพยาบาล หลังเจ้าตัวอ้างมีเสียงกระซิบสั่งให้ฆ่า
คดีนี้เกิดขึ้นคืนวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา พระมหาศุภทิน อายุ 70 ปี ถูกคนร้ายบุกเข้าไปในกุฏิที่วัดแห่งหนึ่ง พื้นที่ ตำบลตาเสา อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ ใช้มีดคัตเตอร์กรีดตามใบหน้า แขน และลำตัว จากนั้นจุดไฟเผาหลวงตา ไฟได้ลุกไหม้ตามลำตัวมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ แต่กว่าชาวบ้านจะมาเจอ ก็ช่วงเช้าซึ่งหลวงตายังไม่มรณภาพ แต่อาการสาหัส
หลังเกิดเหตุตำรวจ ไปจับกุมตัวนายพิษณุ อายุ 34 ปี สาวประเภทสองได้ มีศักดิ์เป็นหลานของพระที่ถูกทำร้าย พร้อมกับนำตัวไปสอบปากคำ และนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวยอมรับว่า ก่อนเกิดเหตุเสพยาบ้าไป 6 เม็ด บุกไปทำร้ายพระมหาศุภทิน เพราะมีเสียงกระซิบสั่งการให้ไปฆ่า แถมไม่สะทกสะท้านหรือรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป
ล่าสุดเช้าวันนี้ ตำรวจบอกว่า เท่าที่ตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาไม่ได้ใช้คัดเตอร์กรีด แต่ใช้มีดอีโต้ฟันตามร่างกายพระ โดยตำรวจจะนำตัวนายพิษณุ ไปส่งโรงพยาบาลเพื่อให้ตรวจร่างกายและสภาพจิต ก่อนจะนำตัวไปฝากขังต่อศาลฯ ใน 5 ข้อหาหนัก คือ พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย บุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืนโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ พาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันสมควร เป็นผู้ขับขี่รถเสพยาเสพติด และเสพยาเสพติด
ขณะที่แม่ผู้ก่อเหตุ บอกว่า จากการไปเยี่ยมลูกชายที่โรงพัก ไม่มีอาการเครียด แต่บอกให้แม่หาเงินมาประกันตัว แม่ก็บอกไปว่าไม่มีเงินมาประกันตัวหรอก ก็ต้องรับโทษกับสิ่งที่ทำลงไป เมื่อถามลูกว่าทำไมถึงไปทำร้ายหลวงลุง ลูกก็จะพูดแต่ว่า "พระไม่ดี ๆ" แต่พอแม่ถามว่าพระไม่ดียังไง ลูกก็ไม่ตอบ และยังบอกว่าเหมือนมีอะไรเข้าสิงให้ไปทำร้ายพระ ก็คิดว่าน่าจะเป็นเพราะอาการหลอนของเขาเอง
ส่วนพระมหาศุภทิน ยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลบุรีรัมย์ อาการหนัก แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด