กลุ่มมือปืนกราดยิงนักท่องเที่ยวในรัฐจัมมูและแคชเมียร์ ประเทศอินเดีย สังหารนักท่องเที่ยวไปอย่างน้อย 26 คน และมีผู้บาดเจ็บอีก 17 คน ก่อนจะหลบหนีไป
วันนี้ (23 เม.ย. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายานว่า เกิดเหตุกลุ่มมือปืนกราดยิงใส่กลุ่มนักท่องเที่ยวในเมืองปาฮาลกัม ทางตอนใต้ของรัฐจัมมูและแคชเมียร์ ประเทศอินเดีย ซึ่งได้รับการขนานนามว่า "สวิตเซอร์แลนด์แห่งอินเดีย" ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 26 คน และบาดเจ็บอีก 17 คน ซึ่งถือเป็นการโจมตีใส่พลเรือนครั้งรุนแรงที่สุดในอินเดีย นับตั้งแต่ปี ค.ศ.2008 ที่เกิดเหตุกราดยิงที่มุมไบ มีผู้เสียชีวิตกว่า 160 คน
ทางพยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า กลุ่มคนร้ายมีประมาณ 3-4 คน ได้ใช้อาวุธปืนกราดยิงใส่กลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างพากันวิ่งหนีตายกันอย่างอลหม่าน หลังจากนั้นทหารอินเดียได้เข้าไปควบคุมสถานการณ์ โดยกลุ่มคนร้ายหลบหนีไปได้หลังการลงมือก่อเหตุ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นในทุ่งหญ้าที่อยู่นอกถนน มีผู้เสียชีวิต 26 คน ซึ่งเป็นชาวอินเดีย 25 คน และเป็นชาวเนปาล 1 คน
ด้านกลุ่มติดอาวุธที่เรียกว่า “กองกำลังต่อต้านแคชเมียร์” อ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีนักท่องเที่ยวครั้งนี้ผ่านข้อความทางโซเชียลมีเดีย โดยกล่าวแสดงความไม่พอใจที่คนนอกกว่า 85,000 คน ได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในภูมิภาคแคชเมียร์
ทางนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ของอินเดีย ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนประเทศซาอุดีอาระเบีย 2 วัน ได้ตัดสินใจเดินทางกลับกรุงเดลี ร่วมทั้งรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ก็ได้ตัดสินใจยุติการเยือนสหรัฐฯ และเปรู เพื่อกลับมาอยู่เคียงข้างประชาชนในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
ด้านประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ โพสต์ประณามการกระทำดังกล่าว พร้อมระบุว่าสหรัฐฯ สนับสนุนนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ในการต่อสู้กับกลุ่มผู้ก่อการร้ายอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ อินเดียและปากีสถานต่างอ้างความเป็นเจ้าของแคว้นแคชเมียร์ และแบ่งพื้นที่การปกครองทางตอนเหนือเป็นของปากีสถานและทางตอนใต้และตะวันออกเป็นของอินเดีย แต่เนื่องจากประชากรในภูมิภาคแคชเมียร์ฝั่งอินเดียเป็นชาวมุสลิมเกินครึ่ง ทำให้มีการตั้งกองกำลังติดอาวุธขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลอินเดียอย่างต่อเนื่อง
