รวบอดีตทหารพรานลักลอบขนอะโวคาโดเถื่อน จากกัมพูชา เบียดเบียนเกษตรกรไทยกว่า 2 ตัน มูลค่ากว่า 300,000 บาท
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบอดีตทหารพรานลักลอบขนผลไม้นำเข้าเถื่อน เบียดเบียนเกษตรกรไทยกว่า 2 ตัน มูลค่ากว่า 300,000 บาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกันจับกุม นายวีระชัยฯ อายุ 35 ปี บริเวณ ริมถนนวัฒนานคร ต.แซร์ออ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว
พร้อมด้วยของกลางผลไม้สด "อะโวคาโด" ที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศ บรรจุอยู่ในกล่องพลาสติกขนาดใหญ่ จำนวน 92 ลัง รวมน้ำหนัก 2,484 กิโลกรัม ความผิดฐาน “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่านำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้ผ่านพิธีการทางศุลกากร” อันเป็นความผิดตามมาตรา 246 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร 2560
พฤติการณ์ ด้วยได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ดำเนินการสืบสวนจับกุมกลุ่มขบวนการลักลอบขนสินค้าพืชผลทางการเกษตรผิดกฎหมายโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร และไม่มีใบอนุญาตนำเข้า-ไม่สำแดงใบรับรองสุขอนามัยพืช ในพื้นที่แนวพรมแดนไทย-กัมพูชา ตลอดแนวภาคตะวันออกของประเทศไทย
ต่อมาได้รับแจ้งจากสายลับ และจากข้อมูลเบาะแสที่ได้มีการรวบรวมก่อนหน้านี้พบว่าจะมีกลุ่มขบวนการลักลอบขนสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้าน (กัมพูชา) โดยใช้ช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ จ.สระแก้ว ในการลักลอบขนสินค้าเกษตร จากนั้นจึงได้เฝ้าสังเกตและลงพื้นที่สืบสวน จึงพบเห็นรถยนต์กระบะ แบบคอกสูง (รถเปล่าไม่มีสิ่งของ) หมายเลขทะเบียน บม-5961 สระแก้ว แอบจอดซุ่มอยู่ในพื้นที่ใกล้กับแนวพรมแดนไทย-กัมพูชา ระยะห่างประมาณ 4-5 กิโลเมตร ในพื้นที่ ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว
ลักษณะเป็นถนนลูกรังขนาดเล็ก ถูกปกคลุมด้วยต้นไม้ และไม่ใช่ช่องทางปกติที่ใช้สำหรับสัญจร ลักษณะที่ผิดปกติวิสัย จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมทราบ
ต่อมาเมื่อรถยนต์คันดังกล่าวขับขี่มาถึงบริเวณ ริมถนนวัฒนานคร ต.แซร์ออ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่จึงให้สัญญาณหยุดรถเพื่อขอทำการตรวจค้น และได้พบคนขับรถ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนพร้อมแจ้งเหตุแห่งความสงสัยให้ทราบ เพื่อขอตรวจค้นจากการตรวจค้นพบ ผลไม้สด (อะโวคาโด) บรรจุอยู่ในกล่องพลาสติกขนาดใหญ่ จำนวน 92 ลัง รวมน้ำหนัก 2,484 กิโลกรัม จึงได้ขอตรวจสอบเอกสารพิธีการทางศุลกากรและเอกสารใบรับรองสุขอนามัยพืช แต่ผู้ต้องหาไม่สามารถแสดงเอกสารการเสียภาษีหรือผ่านพิธีการทางศุลกากร และเอกสารใบรับรองสุขอนามัยพืชที่ถูกต้องมาสำแดงให้เจ้าพนักงานตำรวจได้ จึงได้ทำการจับกุมตัว พร้อมตรวจยึดของกลางนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาเคยเป็นอดีตทหารพราน ต่อมาได้ถูกให้ออกเนื่องจากกระทำผิดเกี่ยวกับการลักลอบขนชาวต่างด้าวข้ามแดน จึงได้หันมารับซื้อผลไม้ชนิดต่างๆจากนายทุนฝั่งประเทศกัมพูชา ซึ่งก่อนวันและเวลาเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้ไปรับผลไม้สด อะโวคาโด มาจากคนสัญชาติกัมพูชา ชื่อเล่น มับ (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) บริเวณช่องทางธรรมชาติพื้นที่ ต.โนนหมากมุ่น จ.สระแก้ว เพื่อนำไปจำหน่ายให้กับลูกค้า และรับกำไรจากผลต่างของราคาขาย โดยผู้ต้องหาจะนำรถยนต์มาจอดรอในพื้นที่ตามจุดที่นายมับนัดหมาย ในการลักลอบนำสินค้าเกษตรเข้ามานั้น นายมับจะเป็นผู้ดำเนินการลักลอบนำผลไม้ข้ามเข้ามาส่งให้ภายในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ทราบช่องทางที่ผ่านเข้ามา ผู้ต้องหาเพียงรอรับในพื้นที่ราชอาณาจักรไทยเท่านั้น
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ดำเนินการตามมาตรการเชิงรุก ป้องกันปราบปรามและจับกุมผู้กระทำความผิด ที่ลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรเพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อผลผลิตภายในประเทศ และเป็นการป้องกันการสวมสิทธิผลไม้ไทยที่ส่งออกไปต่างประเทศ เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้เกษตรกรไทยและผู้ประกอบการที่สุจริต และฝากเตือนถึงประชาชน หากมีการ “ลักลอบนำเข้า ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้โดยประการใด มีอัตราโทษตามกฏหมาย”