วันนี้ (26 เม.ย. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีพลเมืองดีร้องมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ว่ามียายอายุ 80 ปี ถูกลูกชายบีบคอจนแทบหายใจไม่ออก และทำร้ายทุบตีเจ็บปวดส่งเสียงร้องโหยหวน แต่ไม่กล้าเข้าไปช่วยอยู่ในพื้นที่ย่านดอนเมือง กทม. หลังรับเรื่องทาง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ์ ผกก.สน.ดอนเมือง พร้อม น.ส.แรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว , น.ส.กุลจิรา โฉมไสว หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร และ น.ส.เบ็ญจา นับเนืองทรัพย์ ผอ.ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ จ.ปทุมธานี
จากนั้นได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ พม. ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือทันที จากนั้นนำตัวส่งโรงพยาบาล และรับเข้าคุ้มครองสวัสดิภาพที่บ้านผู้สูงอายุ จ.ปทุมธานี โดยนางปวีณาเตรียมประชุมร่วมกรมกิจการสตรีฯ กรมผู้สูงอายุ และลูก ๆ ของยาย เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวที่เกิดขึ้น วันที่ 28 เม.ย.นี้ ที่ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ จ.ปทุมธานี
จากการสอบถามยาย บอกว่า ไม่อยากอยู่กับลูกคนนี้อีกแล้ว ขืนอยู่ที่นี่ต่อไปยายต้องตายแน่ ๆ ขอไปอยู่สถานสงเคราะห์ดีกว่า โดยยายมีลูกทั้งหมด 6 คน เสียชีวิตไป 1 คน เหลืออยู่ 5 คน เป็นฝาแฝด 2 คน ต่างคนต่างมีครอบครัวแยกกันไปอยู่ที่อื่น ก่อนหน้านี้ยายอาศัยอยู่กับลูกสาวที่ จ.ปทุมธานี ก็ถูกลูกสาวทำร้ายทุบตี จึงได้ย้ายไปอยู่กับลูกอีกคนที่ จ.หนองบัวลำภู และเพิ่งจะมาอยู่กับลูกชายคนเล็ก ซึ่งมีอาชีพรับจ้างก่อสร้างที่บ้านหลังนี้ได้ไม่นาน ร่างกายยายก็ไม่แข็งแรง ตามองไม่ค่อยเห็น เวลาเดินต้องใช้วอร์กเกอร์ช่วยพยุง
ยายบอกอีกว่า ลูกชายคนเล็กมักจะทุบตียายเป็นประจำแทบทุกวัน เงินผู้สูงอายุที่ยายได้ทุกเดือนลูกชายก็ยึดไปหมด ด่าทอยายสารพัดเหมือนกับไม่ใช่แม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกชายคนเล็กที่ทุบตีแม่ก็มีภรรยาและลูก 3 คน แต่ภรรยาทนอยู่ด้วยไม่ไหว เพราะถูกทุบตีเหมือนกัน จึงหอบลูกทั้ง 3 คน หนีกลับไปอยู่บ้านที่ จ.อุบลราชธานี เมื่อเช้ายายถูกลูกชายทำร้ายโดยการทุบหลังเจ็บมาก และบีบคอแทบหายใจไม่ออก กลัวจนฉี่ราด ขอให้ช่วยยายออกไปจากที่นี่ด้วย
ขณะเดียวกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ช่วยเหลือนำตัวยายออกจากบ้านหลังดังกล่าว ลูกชายที่ทำร้ายร่างกายยายไม่อยู่บ้าน โดยสีหน้ายายแสดงความดีใจที่มีเจ้าหน้าที่มาให้การช่วยเหลือ