ประเทศสเปน-โปรตุเกส เผชิญไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ สร้างความอลหม่านให้กับประชาชนหลายสิบล้านคน ตอนนี้ไฟฟ้ากลับมาใช้งานได้บางส่วน แต่ยังไม่สามารถใช้งานได้ครบ 100 % คาดสาเหตุมาจากระบบสายส่งไฟฟ้าแรงสูงขัดข้อง
วันนี้ (29 เม.ย.68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ครอบคลุมประมาณ 60% ของประเทศสเปน เมื่อช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. วานนี้ ตามเวลาท้องถิ่นสเปน หรือประมาณก่อน 18.00 น. ประเทศไทย และทำให้ประเทศโปรตุเกสเกิดไฟฟ้าดับตามไปด้วย รวมทั้งพื้นที่บางส่วนของประเทศฝรั่งเศส สร้างความอลหม่านให้ผู้คนหลายสิบล้านคน จนต้องมีการเรียกประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉิน เพื่อรับมือเหตุไฟฟ้าดับครั้งนี้โดยเฉพาะ
โดยการที่ไฟฟ้าดับครั้งนี้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในประเทศสเปน โดยระบบขนส่งสาธารณะทั้งหมดแทบกลายเป็นอัมพาต ทางรถไฟใต้ดินและรถไฟฟ้าต้องปิดให้บริการและอพยพผู้คนออกมาอย่างทุลักทุเล ขณะที่สนามบินทั่วประเทศสเปน ต้องระงับการให้บริการ ทำให้มีผู้โดยสารติดค้างภายในสนามบินนับหมื่นคน นอกจากนี้ระบบการสื่อสารก็ขัดข้อง โทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตไม่สามารถใช้งานได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำงานอย่างหนัก เพราะไฟสัญญาณจราจรดับ และต้องป้องกันคนร้ายฉวยโอกาสก่อเหตุในเวลากลางคืน
ขณะที่ประเทศโปรตุเกส ประชาชนก็เดือดร้อนไม่แพ้กัน เนื่องจากสนามบินและสถานีขนส่งสาธารณะหยุดให้บริการชั่วคราว ทำให้มีผู้โดยสารติดค้างจำนวนมากเช่นกัน
หลังจากนั้น ได้มีการซ่อมแซมระบบไฟฟ้าให้เริ่มกลับมาใช้ได้บางส่วน แต่ผ่านมาเกือบ 18 ชั่วโมงแล้ว ก็ยังไม่สามารถกู้ระบบไฟฟ้าคืนมาได้ครบ 100% ทางนายกรัฐมนตรี เปโดร ซานเชส ของสเปน กล่าวว่า ไฟฟ้ากลับมาแล้วประมาณ 50% ทั่วประเทศ เมื่อคืนวันจันทร์ (28 เม.ย. 68) ขณะที่บริษัทพลังงานของโปรตุเกส รายงานว่า ไฟฟ้ากลับคืนมาแล้วสำหรับลูกค้า 750,000 ราย แต่อาจใช้เวลานานถึงหนึ่งสัปดาห์ในการฟื้นฟูระบบให้กลับมาใช้งานได้ 100%
ทั้งนี้ สาเหตุเบื้องต้นอาจเกิดจากระบบสายส่งไฟฟ้าแรงสูงขัดข้อง แต่ทางการสเปนยังไม่ตัดความเป็นไปได้เรื่องการถูกก่อวินาศกรรม แม้ยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงว่าเป็นเหตุโจมตีทางไซเบอร์จากรัสเซีย ตามที่มีการกล่าวอ้างก็ตาม
