ผู้แทนพระองค์ ไปในพิธีตักบาตร และเปิดโครงการ "มรดกโลก มรดกธรรม" ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

View icon 181
วันที่ 6 พ.ค. 2568 | 20.01 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
เวลา 06.32 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลตรีหญิง ท่านผู้หญิง อรอนงค์ ปิยนาฏวชิรพัทธ์ เป็นผู้แทนพระองค์ไปยังวัดวรเชษฐาราม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ในการนี้ ผู้แทนพระองค์จุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระรัตนตรัย พระสงฆ์ให้ศีลจบ โอกาสนี้ รับฟังรายงานความเป็นมาโครงการมรดกโลก มรดกธรรม ซึ่งคณะสงฆ์ ภาครัฐ และเอกชน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อบูรณปฏิสังขรณ์ปูชนียวัตถุ และปรับปรุงภูมิทัศน์ในจังหวัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี

จากนั้น ไปยังพระอุโบสถ วางพวงมาลัย จุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธวรเชษฐนเรศศาสดา พระประธานประจำพระอุโบสถ

แล้วตักบาตรพระสงฆ์ 10 รูป ในการนี้ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เลขานุการสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก นำพระสงฆ์ที่นิมนต์มาจากวัดต่าง ๆ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รับบิณฑบาต โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด และข้าราชการ ร่วมตักบาตรพระสงฆ์อีก 63 รูป

จากนั้น ผู้แทนพระองค์จุดเทียนเงิน-เทียนทอง และธูปที่โต๊ะบวงสรวง จุดธูปหางปักที่เครื่องบวงสรวง และจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ, โปรยดอกไม้ที่โต๊ะบวงสรวงสมเด็จพระบูรพกษัตริยาธิราชแห่งกรุงศรีอยุธยา และกรุงรัตนโกสินทร์

แล้วประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ โอกาสนี้ มอบของที่ระลึกแก่ผู้มีจิตศรัทธา บริจาคเงินบูรณปฏิสังขรณ์วัดวรเชษฐาราม ซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนกลาง ตามราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ระบุว่า สมเด็จพระเอกาทศรถ โปรดให้สร้างวัดวรเชษฐารามวิหาร และในคำให้การชาวกรุงเก่ากล่าวว่า เมื่อสมเด็จพระเอกาทศรถขึ้นครองราชย์แล้ว โปรดให้สร้างพระเมรุมาศถวายพระเพลิงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แล้วทรงสร้างวัดอุทิศพระราชกุศล ถวายพระเชษฐาธิราช พระราชทานนามว่า วัดวรเชษฐ์ สันนิษฐานว่าคือวัดแห่งนี้ หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาในปี 2310 วัดวรเชษฐารามถูกทิ้งร้างจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ กระทั่งกรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนให้เป็นโบราณสถานของชาติ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2484 และได้บูรณะพระพุทธรูปประธาน พระอุโบสถ

จากนั้น เดินทางยังวัดโลกยสุธาราม ภายในเกาะเมืองอยุธยา ในการนี้ ผู้แทนพระองค์ วางพวงมาลัย แล้วจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธไสยาส์น เป็นพระพุทธรูปนอน ก่ออิฐถือปูน ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง มีความยาว 42 เมตร สูง 8 เมตร พระพักตร์หันไปทางทิศเหนือ ที่พระเศียรมีดอกบัวรองรับ พระบาทซ้อนกันเป็นมุมฉาก นิ้วพระบาทยาวเท่ากัน มีดอกบัวเกยซ้อนรองรับพระเศียรแทนพระเขนย เป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่งดงาม และใหญ่ที่สุดในเกาะเมืองอยุธยา

ในการนี้ เปิดนิทรรศการโครงการมรดกโลก มรดกธรรม เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และการจัดการมรดกโลกทางวัฒนธรรมในสังคมไทยอย่างสร้างสรรค์ เสริมสร้างการมีส่วนร่วม ทั้งภาครัฐ คณะสงฆ์ ภาคเอกชน และประชาชน ในการจัดการมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ยั่งยืนในสังคมไทย

กำหนดเป้าหมายโครงการระยะ 5 ปีแรก ระหว่างปี 2568-2572 ในพื้นที่มรดกทางวัฒนธรรม 5 แห่ง ได้แก่ มรดกโลกสุโขทัย-ศรีสัชนาลัย-กำแพงเพชร, พระนครศรีอยุธยา, ศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์, ภูพระบาท และบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี ซึ่งได้รับการจัดการอย่างสร้างสรรค์ สอดคล้องกับการจัดการวัฒนธรรมของยูเนสโก รวมถึงพื้นที่มรดกวัฒนธรรมที่สำคัญ 20 จังหวัด อาทิ เชียงราย, เชียงใหม่, น่าน, บุรีรัมย์, สุรินทร์, สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ซึ่งได้รับการพัฒนาเชิงสร้างสรรค์สู่การเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่ยั่งยืน

ข่าวอื่นในหมวด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง