บุกจับร้านนวด เมืองเชียงราย ติดป้ายหน้าร้านนวดเพื่อสุขภาพ แฝงค้าบริการทางเพศ และนำสาวต่างด้าวมาเป็นพนักงานบริการลูกค้า และบุคคลต่างด้าวแสดงตนเป็นผู้จัดการร้าน
เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและตำรวจ วางแผนการเข้าตรวจค้น ก่อนจะจู่โจมเข้าตรวจจับกุม ร้านนวดเพื่อสุขภาพกลางเมืองเชียงราย ที่มีพฤติกรรมนำเด็กสาวบุคคลต่างด้าว มาเป็นพนักงานแล้วแฝงการค้าประเวณี คิดราคา 1-3 พันบาทต่อครั้ง ตรวจสอบพบผู้จัดการของร้านและผู้ดูแลร้านเป็นบุคคลผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน
ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามปฏิบัติการภายใต้ชื่อ "เชียงรายฟ้าใส" หลังจากได้รับแจ้งเบาะแสและเรื่องร้องเรียนผ่านสายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ว่าสถานประกอบการร้านนวด ตั้งอยู่ถนนเจ็ดยอด ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย มีพฤติการณ์นำเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวมาเป็นพนักงานนวดของร้าน โดยแฝงการขายบริการทางเพศให้กับลูกค้า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสืบสวนตรวจสอบร้านนวดดังกล่าวพบว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายการกระทำความผิดตามที่ได้รับแจ้งเบาะแสและร้องเรียนจริง
เวลาประมาณ 23.00 น. ของคืนวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ของที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงราย ร่วมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย เข้าดำเนินการตรวจสอบ และบังคับใช้กฎหมายกับสถานประกอบการร้านนวดเพื่อสุขภาพ
โดยเจ้าหน้าที่ได้วางแผนส่งสายลับเข้าไปแฝงตัวเป็นลูกค้า เพื่อเก็บพฤติการณ์และพิสูจน์ความผิดของสถานประกอบการดังกล่าว เมื่อสายลับพิสูจน์ความผิดจนเป็นที่แน่ชัดแล้ว จึงได้ส่งสัญญาณให้ชุดจับกุมเข้าตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่าร้านดัดแปลงจากอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 1 คูหา โดยชั้นที่ 1 ใช้เป็นสถานที่รับรองลูกค้าสำหรับนั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮฮล์และพูดคุยกับพนักงานนวด ส่วนชั้นที่ 2 และ 3 มีการกั้นผนังเป็นห้องขนาดเล็กเพื่อใช้เป็นห้องสำหรับให้บริการนวด รวมทั้งหมด 7 ห้อง
จากการตรวจสอบพบพนักงานบริการหญิงของร้าน จำนวน 17 คน แบ่งเป็นบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน(คนไร้สัญชาติ) 15 คน บุคคลสัญชาติไทย 1 คน และ บุคคลสัญชาติเมียนมา 1 คน และพบพนักงานบริการหญิงของร้านที่คาดว่าอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 2 คน โดยมี นางสาวนิสา อายุ 40 ปี บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน แสดงตนเป็นผู้จัดการของร้าน และนางสาวฟ้าใส บุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน แสดงตนเป็นผู้ดูแลร้าน ทั้งนี้ จากการสืบสวนตรวจสอบพฤติการณ์ของร้านพบว่าพนักงานบริการหญิงของร้านมีการแฝงขายบริการทางเพศให้กับลูกค้าโดยคิดค่าบริการเป็นรายชั่วโมง ตั้งแต่ชั่วโมงละ 1,000 บาท ถึง 3,000 บาท ซึ่งค่าบริการดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับอายุและรูปร่างหน้าตาของพนักงานหญิงที่ให้บริการ
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้จัดการร้านและผู้ดูแลร้านในเบื้องต้น ดังนี้ (1) ร่วมเป็นผู้เป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตามตามมาตรา 9 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 (2) ร่วมเป็นผู้ดูแล หรือผู้จัดการการค้าประเวณีหรือสถานการค้าประเวณี หรือเป็นผู้ควบคุมผู้กระทำการค้าประเวณีในสถานการค้าประเวณี ตามมาตรา 11 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 (3) ร่วมเป็นนายจ้างที่มีการจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเป็นลูกจ้าง โดยไม่แจ้งการจ้างลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กนั้นต่อพนักงานตรวจแรงงานภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่เด็กเข้าทำงาน ตามมาตรา 45 (1) ประกอบมาตรา 146 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ทั้งนี้สำหรับพนักงานของร้านที่ค้าประเวณี เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหากระทำการในที่อื่นใด เพื่อการค้าประเวณีอันเป็นการเปิดเผยและน่าอับอาย ตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ประสานสหวิชาชีพเพื่อทำการคัดแยกเหยื่อผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ต่อไป