ห้องข่าวภาคเที่ยง - จากเรื่องราวประเด็นดรามาที่เมื่อวานนี้ ลูกสาว ออกมาร้องไห้กราบขอความช่วยเหลือ ว่าแม่จู่ ๆ ก็หายตัวจากบ้านไปนานนับเดือน แล้วก็มีคำสั่งศาลฯ มาขับไล่ออกจากบ้าน เชื่อว่าแม่โดนหลอก สรุปแล้วแม่ออกมายืนยันว่าไม่ได้โดนหลอก และเธอก็สบายดี ไม่เชื่อไปดูภาพนี้กัน
ชัดเจนว่าเธอไม่ได้หายตัวไปไหน และบ้านก็ไม่ได้ถูกหลอกขาย แต่นางเพ็ง แม่ของนางวราภรณ์ ที่ไปร้องขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิ รณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เมื่อวานนี้
เธอตัดสินใจหลบออกจากบ้านเดิม มาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในอำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งตอนที่ทีมข่าวไปเจอกับเธอ ก็เห็นชัดเจนว่าพูดจารู้เรื่องดี ยืนยันกับทีมข่าวว่า เป็นคนขายบ้านหลังนั้นเอง ตกลงกันที่ 600,000 บาท แต่มีเงื่อนไข ว่าลูกจะต้องออกจากบ้านภายใน 1 เดือน เหตุที่ทำแบบนี้ ก็เพราะต้องการหนีลูกสาว ที่ชอบทำร้ายร่างกายตัวเอง เพื่อบังคับให้โอนที่ดินให้ โดยนำเงินที่ได้มาทำสัญญาเช่าที่ดินในหมู่บ้านแห่งนั้น 5 ปี ในราคาปีละ 600 บาท และสร้างบ้านแบบน็อกดาวน์ พออยู่ได้ เพื่อความความสบายใจ
สอบถามเพื่อนบ้านบอกว่า เท่าที่เคยเห็นการอยู่อาศัยของแม่กับลูกคู่นี้ ตนก็เห็นแต่แม่ ที่ชอบพูดถึงลูกสาวในเรื่องที่ไม่ดี พอกลับมาถึงบ้านก็จะทะเลาะเบาะแว้งกัน แต่เรื่องลงมือตบตีตนก็ไม่เคยเห็นกับตา ส่วนการขายบ้านผู้เป็นแม่สมัครใจขายเอง ไม่ได้มีคนมาบังคับหรือหลอกลวงแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามสำหรับประเด็นที่แม่บอกว่า จะให้เงินกับลูก 100,000 บาท สอบถามเรื่องนี้กับทนายรณณรงค์ บอกว่า ก็ต้องหาคนกลางไปเจรจา เป็นพยานไกล่เกลี่ยจะได้ไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง เพราะบ้านหลังที่ขายไปเป็นทรัพย์มรดก ที่ทั้ง 2 คน มีสิทธิ์ร่วมกัน