ชาวบ้านรุมจับหนุ่มเมากาว บุกบ้านหวังข่มขืนเด็กวัย  5 ขวบ แม่ยกเตารีดทุบหัวเลือดสาด

ชาวบ้านรุมจับหนุ่มเมากาว บุกบ้านหวังข่มขืนเด็กวัย 5 ขวบ แม่ยกเตารีดทุบหัวเลือดสาด

View icon 316
วันที่ 15 พ.ค. 2568 | 17.33 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ชาวบ้านรุมจับหนุ่มเมากาว บุกบ้านหวังข่มขืนเด็กวัย  5 ขวบ แม่ได้ยินเสียงร้อง รีบมาช่วยยกเตารีดทุบหัวเลือดสาด ขณะที่แม่ผู้ก่อเหตุตามมาถึงโรงพัก ไม่มีเงินประกัน ปล่อยลูกรับกรรม 

วันนี้ (15 พ.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิปชาวบ้านช่วยกันรุมจับคนร้ายหลังหลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ริมบึงสังข์ หมู่ 3 ต.กุดสระ อ.เมือง จ.อุดรธานี ก่อนจับส่งตำรวจ พร้อมเขียนข้อความว่า “มีคนสติไม่ดีจะมาข่มขืนเด็กน้อย เจอตัวแถวบึงจึงจับตัวไว้ได้ คาดว่าน่าจะเมายา”  ซึ่งมีคนเข้าแสดงความคิดเห็น และแชร์คลิปจำนวนมาก

ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่บึงสังข์ พบนายวัชระ อายุ 33 ปี ผู้ถ่ายคลิปดังกล่าว เล่าว่า เช้าวันนี้มีคนร้ายเป็นชายปั่นจักรยานเข้ามาในหมู่บ้าน พบเห็นเด็กหญิงวัย 4-5 ขวบ นั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน คนร้ายได้จอดรถจักรยานเดินเข้าไปหาเด็ก ซึ่งเด็กเห็นคนร้ายก็กรีดร้องตกใจ แล้วรีบวิ่งหนีเข้าไปในบ้าน แต่คนร้ายวิ่งตามเข้าไปพร้อมจับแขนและขาจะถอดกางเกง เพื่อทำมิดีมิร้าย เด็กร้องขอความช่วยเหลือ ทำให้แม่เด็กได้ยิน จึงเข้าไปช่วยใช้เตารีดทุบหัวคนร้ายจนหัวแตก วิ่งหนีออกมาจากบ้านแล้วปั่นจักรยานหลบหนีไป

นายวัชระ เล่าอีกว่า ช่วงเกิดเหตุ ตนกำลังทำงานอยู่ในบ้าน ก็ได้ยินเสียงร้องของชาวบ้านว่า มีคนร้ายเข้ามาพยายามข่มขืนเด็ก ชาวบ้านกำลังไล่จับตัว ตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ไปช่วยชาวบ้านตามหาคนร้าย และไปพบรถจักรยานของคนร้ายจอดอยู่ริมบึงสังข์ ส่วนคนร้ายเดินลงไปในบึงเพื่อล้างเลือดที่ไหลจากศีรษะอาบใบหน้า ชาวบ้านจึงตามลงไปลากตัวคนร้ายขึ้นมา บางคนโมโหได้ชกคนร้ายด้วยความโกรธแค้น ต้องช่วยกันห้ามปราม ก่อนคุมตัวไปโรงพัก ซึ่งตนอยากเตือนภัยสังคมว่า ให้ดูแลเด็กและลูกหลานให้ดี เพราะภัยสังคมมีมาก ทั้งพวกเสพยา ดมสารระเหย คนร้ายที่ก่อเหตุก็น่าจะเมาสารระเหย ให้ช่วยสอดส่องดูแลบุคคลแปลกหน้าที่เข้ามาในหมู่บ้านด้วย

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.ย่อยนาข่า อ.เมืองอุดรธานี พบ พ.ต.ท.เจษฎา ว่องไว สว.(สอบสวน) กำลังรับแจ้งความ และสอบปากคำพ่อแม่เด็ก โดยตำรวจสืบสวนได้ควบคุมตัวคนร้ายทราบชื่อคือนายปรีชา หรือหลอด อายุ 29 ปี มาสอบสวนปากคำ ซึ่งนายปรีชามีอาการมือสั่น ตอบคำถามตำรวจช้า แต่ให้การรับสารภาพว่า เข้าไปบ้านเด็กจริง เพื่อไปข่มขืน แต่ยังไม่ได้ทำ เด็กร้อง และแม่เด็กเข้ามาพบก่อน จึงปั่นรถจักรยานหนี

ขณะที่แม่นายหลอด ได้เดินทางมาโรงพัก เพื่อเยี่ยมนายหลอดลูกชาย ซึ่งนายหลอดได้กราบขอโทษแม่ที่ได้กระทำผิด โดยแม่นายหลอดได้ยกโทษให้ แต่ก็ให้ลูกรับกรรมที่ตัวเองกระทำ พร้อมบอกว่า ตนมีลูก 3 คน สามีตายได้ 4 ปี ลูกสาวคนโตแต่งงานกับชาวเยอรมัน ส่งเงินมาให้ใช้เดือนละ 1 หมื่นบาท ส่วนลูกชายคนกลางเสียชีวิต เพราะดมทินเนอร์จนปอดหาย และนายหลอดเป็นลูกคนเล็ก ถูกรถชนตั้งแต่อายุ 15 ปี ทำให้พิการขาหักทั้งสองข้าง นายหลอดไม่ได้ทำงานและยังสูดดมกาวและทินเนอร์เหมือนพี่ชาย จนมีอาการทางจิตประสาท ต้องนำตัวไปรักษาที่ รพ.จิตเวช และ รพ.อุดรธานี แต่ก็หวนกลับมาดมทินเนอร์เหมือนเดิม

ตนบอกให้ลูกเลิกดมทินเนอร์ เพราะเกรงว่าลูกจะเสียชีวิตเหมือนพี่ชาย แต่ลูกก็ไม่ฟัง นำเงินคนพิการไปซื้อทินเนอร์มาดมเหมือนเดิม แต่นายหลอดไม่เคยอาละวาดหรือทำร้ายแม่ แต่เคยก่อเหตุจับเนื้อต้องตัวผู้หญิงในหมู่บ้าน พอรู้ว่าเป็นคนสติไม่ดีก็ให้อภัยและไม่แจ้งความดำเนินคดี ก่อนเกิดเหตุ เมื่อเช้านี้ตนจะพาลูกไปหาหมอที่โรงพยาบาลตามนัด แต่นายหลอดได้ดมทินเนอร์ทั้งคืน และปั่นรถจักรยานออกจากบ้านมุ่งไปทางบึงสังข์ ตนก็คิดว่าลูกนอนดมทินเนอร์ทั้งคืนจนสว่าง คงจะร้อนเลยไปอาบน้ำที่บึงสังข์ ไม่คิดว่าจะไปก่อเหตุบุกเข้าไปในบ้านแล้วลวนลามเด็ก พอทราบเรื่องตนก็ตามมาโรงพัก ตนคงจะไม่ประกันตัวเพราะไม่มีเงิน  ให้ลูกรับโทษติดคุกตามกรรมที่ได้ทำ

เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหานายปรีชา “บุกรุกเคหะสถาน” เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนข้อหาพยายามข่มขืนเด็ก ต้องสอบปากคำพยาน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอีกครั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง