ชายเร่ร่อนเดินเท้าเปล่าจากไทรน้อย โผล่กลางถนนรัตนาธิเบศร์ มีพฤติกรรมเดินตัดหน้ารถ เดินกลางถนน หวังให้รถชน ผู้ใช้รถใช้ถนนหวั่นอันตราย แจ้งตำรวจจับส่งกลับบ้าน
จากกรณีที่ เพจข่าวคนนนท์ โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความไว้ว่า “ อันตรายมากนะ เสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งเขาและผู้อื่นที่ขับรถไปมา แถมฝนตกถนนลื่นด้วย ใช่คนในตำนานไหม ที่ ออกข่าวเตือนบ่อยๆมานาน ฝากเจ้าหน้าที่-หน่วยงาน ลงมาตรวจสอบและช่วยเหลืออย่างจริงจังอีกครั้ง ฝากข่าวคนนนท์ แจ้งเตือนระวังด้วยครับ 14:20 น. เจอรัตนาธิเบศร์ แถวๆแยกพระนั่งเกล้า มุ่งไปทางแยกเลี่ยงเมืองนนท์ ฝนตกถนนลื่น ยังเดินเสี่ยงๆอีก คนที่เห็นบ่อยๆ แต่ฝนตกเดินแบบนี้ก็ไม่ไหว อันตรายกับคนใช้รถ เขาจะขึ้นๆลงๆ จากฟุตบาท บ้างครั้งก็ยืน ข้างถนน เดินบนถนน ยืนบนฟุตบาท แล้วแต่อารมณ์เขา
เมื่อวันที่ 16 พ.ค.68 ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ “ดร.แก้ว” พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ. รัตนาธิเบศร์ ได้เจอตัวนายสันติ อายุ 35 ปี หรือชายเร่ร่อนคนดังกล่าว เดินอยู่ที่บริเวณ ซอยรัตนาธิเบศร์ 12 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวมาที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อสอบถามและจะประสาน สำนักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนนทบุรี (พม.) ปรากฏว่า นายสันติฯ ได้เดินทางด้วยเท้าเปล่ามาจากพื้นที่สภ. ไทรน้อย หลังจากนั้นเดินตามทางมาเรื่อยๆ และมีพฤติกรรมเดินตัดหน้ารถ เดินกลางถนน ทำให้ผู้ใช้รถสัญจรไปมาหวั่นเกิดอุบัติเหตุและเกิดอันตราย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวนายสันติฯ ส่งกลับบ้านแถวไทรน้อย
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนนทบุรี (พม.) ได้เดินทางไปที่บ้านของนายสันติฯ ปรากฏว่า ยังไม่พบตัวนายสันติฯ จึงสอบถามแม่และพี่สาวของนายสันติฯ พบว่า นายสันติฯมีอาการเสพยาเสพติด มึนเมาตลอดเวลา เคยถูกส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลศรีธัญญา เมื่อปี2566 ที่ผ่านมา แต่หลังจากที่กลับมานายสันติฯไม่เข้าบ้านและเดินเร่ร่อนไปทั่ว ทางญาติประสงค์ยินดีให้ทาง พม.เข้ามารับตัวไปได้หากเจอตัวนายสันติฯ
ส่วนทางด้าน ดร.แก้ว กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจว่ามีชายเร่ร่อน เดินอยู่ที่รัตนาธิเบศร์ 12 และการสอบถามทราบว่าเขาเดินมาตั้งแต่พื้นที่ สภ.ไทรน้อย แวะมาจบที่พื้นที่รัตนาธิเบศร์ ซึ่งมีประชาชนพบเห็นหลายวันแล้ว จึงเข้าไปตรวจสอบและพบเจอตัวชายคนดังกล่าว ทางสายตรวจจึงนำตัวเข้า สภ.รัตนาธิเบศร์ และจะติดต่อเจ้าหน้าที่ พม. ให้เข้ามารับตัว ซึ่งตนได้มีการสอบถามพูดคุยกับเขาแล้ว แต่เขาไม่ตอบ พฤติกรรมของเขาชอบเดินตัดหน้ารถ ตนจึงเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้รถบนท้องถนนจึงให้เจ้าหน้าที่จัดการต่อไป เพราะเขาทำพฤติกรรมแบบนี้หลายครั้งแล้ว